ข่าวด่วน
Sun. Jun 29th, 2025

ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท. สภอ.) ได้จัดงานสัมมนาวิชาการสัญจร ประจำปี 2566 หัวข้อ “ขับเคลื่อนภาคเกษตรอีสานให้ “เปลี่ยนผ่าน” สู่ความยั่งยืน” ในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 เวลา 09.00-11.30 น. ณ ห้องประชุมสามพันโบก แกรนด์บอลรูม โรงแรมเซ็นทารา อุบล อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ได้รับทราบทิศทางเศรษฐกิจการเงิน นโยบาย ธปท. รวมถึงประมาณการเศรษฐกิจภาคอีสานในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อการวางแผนของภาคธุรกิจและครัวเรือน ตลอดจนรับฟังมุมมองเกี่ยวกับแนวทางการปรับตัวของภาคเกษตรเพื่อยกระดับและขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาทั้งภาคธุรกิจ ภาคเกษตร สถาบันการเงิน การศึกษา หน่วยงานราชการ และประชาชนทั่วไป ผ่านช่องทางออนไลน์ (online) และ ณ สถานที่จัดงาน (onsite) โดยงานสัมมนาแบ่งเป็น 3 ช่วง

ในช่วงแรก เปิดงานสัมมนาโดย ดร. ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท. สภอ. โดยนำชม
วีดิทัศน์ “5 ทศวรรษแบงก์ชาติอีสาน มุ่งสู่เศรษฐกิจการเงินที่ยั่งยืนและทั่วถึง” และกล่าวเปิดงาน

ดร. ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท. สภอ. Cr.ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงที่สอง เป็นช่วง Perspectives ในหัวข้อ “ชวนคุยทิศทางเศรษฐกิจ ชวนคิดปรับโครงสร้างภาคเกษตรอีสาน” โดย คุณมนัสชัย จึงตระกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธปท. สภอ. นำเสนอผลประมาณการเศรษฐกิจอีสาน (Gross Regional Product: GRP)

คุณมนัสชัย จึงตระกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธปท. สภอ. Cr.ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจอีสานบางช่วงแตกต่างไปจากประเทศ รวมทั้งยังไม่มีการเผยแพร่ประมาณการไปข้างหน้า ทำให้การพิจารณาเฉพาะทิศทางเศรษฐกิจประเทศ อาจไม่สะท้อนทิศทางเศรษฐกิจภูมิภาค ธปท.สภอ. จึงได้ศึกษาและจัดทำประมาณการเศรษฐกิจภูมิภาคที่ให้มุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ในช่วง 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้ธุรกิจและประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งผลประมาณการเศรษฐกิจอีสานปี 66 คาดว่าหดตัวในช่วงร้อยละ -2.0 ถึง -1.0 โดยหดตัวเกือบทุกสาขาเศรษฐกิจ ยกเว้นภาคก่อสร้าง และปี 67 ขยายตัวเล็กน้อย อยู่ในช่วงร้อยละ 0.4-1.4 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าระดับประเทศ โดยเฉพาะกิจกรรมหลักที่อีสานพึ่งพิงมากถึง 1 ใน 3 ได้แก่ ภาคเกษตรและการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรหดตัวจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยภาพรวมเศรษฐกิจอีสานในระยะสั้นจะไม่สดใสมากนัก

แผนที่จังหวัดสีชมพู รวม จ.อุบลฯ คาดภัยแล้งจะกระทบแหล่งปลูกข้าวและอ้อย

หากมองในระยะยาวภาคเกษตรอีสานยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างอื่น ๆ อีก เช่น แหล่งน้ำทำการเกษตรที่อยู่ในพื้นที่เขตชลประทานเพียงร้อยละ 10 โดยพื้นที่ทำการเกษตรส่วนใหญ่ทำนาข้าวซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ทำให้รายได้เกษตรอีสานมีความผันผวนสูงตามสภาพภูมิอากาศ

ชลประทานมีเพียงร้อยละ 10 ของพื้นที่ แต่การปลูกข้าวใช้น้ำมากซึ่งกินพื้นที่เกษตร ร้อยละ 66 ขอพื้นที่อีสาน

นอกจากนี้ นโยบายภาครัฐส่วนใหญ่เป็นนโยบายระยะสั้นที่ไม่จูงใจให้เกษตรกรปรับตัว ทำให้ความสามารถในการทำเกษตรของไทยถดถอยลง ผลลัพธ์ทั้งหมดจึงสะท้อนมาที่ปัญหา “หนี้สิน” ที่ครัวเรือนเกษตรอีสานเป็นหนี้เกือบร้อยละ 80 และในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา

หนี้เกษตรภาคอีสานมีอัตราการเติบโตสูงมาก และในระยะข้างหน้ายังมีความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ดังนั้น การทำเกษตรแบบเดิม คงไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป ท้ายสุด ได้กล่าวถึงตัวอย่างจากกลุ่มที่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวจนประสบความสำเร็จ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคอีสานยังมีความหวังถ้าสามารถส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการปรับตัวได้

Cr.ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ชมคลิปย้อนหลัง : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี

Related Post