เตรียมพร้อมก่อนชมฝนดาวตกเจมินิดส์ คืนวันที่ 14 – เช้ามืดวันที่ 15 ธันวาคม 2566
เจมินิดส์เริ่มปรากฏตัวครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษที่ 1800s อย่างไรก็ตามในยุคนั้นสังเกตเห็นได้น้อยมาก มีเพียง 10-20 ดวงต่อชั่วโมงเท่านั้น ต่างจากในปัจจุบันที่กลายเป็นฝนดาวตกขนาดใหญ่ที่มีอัตราการตกราว 150 ดวงต่อชั่วโมง
คำว่า Gemini (ออกเสียงว่า เจมินี) ยังเป็นชื่อยานอวกาศที่มีนักบินอวกาศประจำยาน 2 คน ในช่วงปี ค.ศ. 1964-1966 เพื่อเตรียมตัวสำหรับโครงการอพอลโล (Apollo) ที่จะส่งมนุษย์ไปลงดวงจันทร์
โดยฝนดาวตกเจมินิดส์มีลักษณะการตกกระจายทั่วท้องฟ้าจากจุด ๆ หนึ่งที่เรียกว่า จุดศูนย์กลางการกระจาย (Radiant) เมื่อจุดศูนย์กลางการกระจายตรงหรือใกล้เคียงกับกลุ่มดาวอะไร ก็จะเรียกชื่อฝนดาวตกตามกลุ่มดาวนั้น ๆ หรือดาวที่อยู่ใกล้กลุ่มดาวนั้น เช่น ฝนดาวตกเจมินิดส์ ซึ่งมีจุดศูนย์กลางการกระจายใกล้กลุ่มดาวคนคู่ (เจมีไน)
หากใครต้องการชมเจมินิดส์ องค์การนาซา (NASA) แนะนำว่า ให้หาบริเวณที่ห่างไกลจากแสงไฟแสงสว่าง เตรียมถุงนอน ผ้าห่ม หรือเก้าอี้สนาม นอนหงายโดยเท้าหันไปทางทิศใต้ แล้วเงยหน้าขึ้นหรือนอนมองท้องฟ้า
ทุกปีจะมีฝนดาวตกคนคู่ (Geminids เจมินิดส์) มากที่สุดในวันที่ 14 ธันวาคม อัตราดาวตก 120-150 ดวงต่อชั่วโมง เห็นดาวตกพุ่งออกมาจากกลุ่มดาวคนคู่ จุดกระจายหรือจุดศูนย์กลางอยู่ใกล้ดาวแคสเตอร์ เป็นฝนดาวตกที่น่าดูที่สุดสำหรับประเทศไทย เนื่องจากมีดาวตกมาก มักมีดาวตกลูกไฟ (fireball) ใหญ่สว่าง เกิดประจำสม่ำเสมอทุกปี และเนื่องจากเป็นฤดูหนาว ท้องฟ้ามักแจ่มใสปลอดโปร่ง มักมีเมฆน้อยหรือไม่มีฝน จึงมีโอกาสได้เห็นดาวตกได้มาก
อีกหนึ่งคุณลักษณะเด่นของเจมินิดส์คือ มันเป็นฝนดาวตกที่มีต้นกำเนิดจากดาวเคราะห์น้อย แตกต่างจากฝนดาวตกส่วนใหญ่ที่มีต้นกำเนิดจากดาวหาง โดยมันมีต้นกำเนิดจากดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ซึ่งใช้เวลา 1.4 ปี ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 ครั้ง
ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/
: https://www.nstda.or.th/sci2pub/gemini/
คำแนะนำ 7 ข้อ ก่อนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์ (Geminids)” 14-15 ธ.ค.66
- พื้นที่เปิดโล่งปราศจากสิ่งกรีดขวางภาคพื้นดินเช่นต้นไม้ ตึก อาคารบ้านเรือน ห่างไกลแสงสีไฟ 14 ธ.ค. 66 คืนนี้ขึ้น 2 ค่ำ แสงจันทร์ไม่เป็นอุปสรรคเหมาะต่อการดูดาว หาไฟฉายหรือแสงไฟโทรศัพท์ส่องดูทางเดินหรือที่ชมเพื่อระวังสัตว์มีพิษ
- เวลา 20.00 น.เริ่มเห็นดาวคาสเตอร์ ซึ่งเป็นบริเวณศูนย์กลางหรือจุดกระจายฝนดาวตกพ้นขอบฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ เวลา 20.30 น. ดาวคาสเตอร์จะอยู่สูงจากขอบฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือเป็นมุมเงย 15 องศา
- ดาวคาสเตอร์เป็นดาวสว่างดวงหนึ่งอยู่เหนือดาวพอลลักซ์ ในกลุ่มดาวคนคู่(เจมินี)หรือคนไทยมองเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียกหมู่ดาวนี้ว่าดาวโลงและกาเกาะปากโลง
- เริ่ม 20.30 น.ศูนย์กลางจุดกระจายฝนดาวตกจะพ้นขอบฟ้ามา 15 องศาเริ่มมองเห็นฝนดาวตกพุ่งออกมาจากจุดนี้สาดกระจายไปทุกทิศทุกทาง เราจึงมองเห็นดาวตกทุกทิศทุกทาง
- ศูนย์กลางตรงดาวคาสเตอร์จะสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ชั่วโมงละ 15 องศา จนเช้ามืดเข้าสู่วันที่ 15 องศา ศูนย์กลางจุดกระจายจะคล้อยไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
- เวลาหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป เข้าสู่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 เป็นช่วงเวลาที่คาดการณ์ว่าจะมีฝนดาวตกมากประมาณ 120-150 ดวงต่อชั่วโมง ศูนย์กลางตรงบริเวณดาวคาสเตอร์จะอยู่กลางท้องฟ้าคล้อยไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเล็กน้อย เป็นช่วงเวลาที่เหมาะต่อการชมฝนดาวตกในค่ำคืนนี้
- นอกจากจะเห็นฝนดาวตกแล้วยังเห็นดาวเคราะห์และวัตถุท้องฟ้าอื่นๆ อีก เช่น ตอนหัวค่ำทิศตะวันออก
- เห็นกระจุกดาวลูกไก่ ดาวไถ ดาวเต่า กระจุกดาวลูกไก่ เนบิวลาสว่างใหญ่ ดาวโจร สามเหลี่ยมหน้าหนาว หกเหลี่ยมหน้าหนาวกลางท้องฟ้า
- เห็นดาวพฤหัสบดีทิศตะวันตก ดาวเสาร์ และสามเหลี่ยมหน้าร้อนทิศเหนือ
- กลุ่มดาวค้างคาวและดาราจักรแอนโดรเมดราตอนเช้ามืด ดาวศุกร์ ขึ้นมาทางทิศตะวันออก สามเหลี่ยมฤดูใบไม้ผลิ
เวลา 20.00 น.เริ่มเห็นดาวคาสเตอร์
ในจังหวัดอุบลราชธานี สถานที่จัดกิจกรรมชมฝนดาวตกเจมินิดส์ 2 แห่งคือ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม และ สนามกีฬากลาง มหาวิยาลัยอุบลรชธานี
Ubon connect อุบลคอนเนก/เรียบเรียง
