อ.สมเกียรติชี้หากนับเวลา อุบลฯถึงปีใหม่ก่อน แต่ 1 มกราแสงอาทิตย์ขึ้นที่ตากใบ เหตุโลกหมุนเหมือนลูกข่าง ฝากคำนึงถึงความโค้งของแสง

สื่อมวลชนอาวุโสชี้หากดูตามเวลา ซึ่งยึดเส้นแวง อุบลราชธานีถึงปีใหม่ก่อน แต่ถ้าดูตามแสงอาทิตย์ช่วงปีใหม่ นราธิวาสได้รับแสงก่อน เตือนแสงไม่ได้เดินทางเป็นเส้นตรงต้องคำนวณความโค้ง ทั้งปัจจัยกว่าแสงจะถึงโลกใช้เวลา 8 นาที เชียร์ 2 จังหวัดทำสงครามการท่องเที่ยวให้เต็มที่ อยู่ที่ใดก็เห็นแสงเหมือนกัน

ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล สื่อมวลชนอาวุโส ผู้อยู่เบื้องหลังการวางรากฐานให้กับวงการโทรทัศน์ประเทศไทยกล่าวในรายการโลกยามเช้า ทางคลื่นความคิด FM 96.5 เมกะเฮิรตซ์ วันที่ 3 มกราคม 2567 ว่า จากการที่ที่ตนได้กล่าวในรายการในปีที่แล้ว ถึง จังหวัดอุบลราชธานีได้รับแสงอาทิตย์ก่อนใคร เพราะการที่เราเห็นแสงพระอาทิตย์ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ก็มักจะอ้างอิง พระอาทิตย์ขึ้นที่ ผาชะนะได และเวลาในประเทศไทยก็ยึดหลักเส้นแวงที่นี่

ปรากฏว่ามีผู้ฟัง 3 ท่านเขียนท้วงติงมาว่า สมาคมดาราศาสตร์ไทย ได้อธิบาย ถึงข้อมูลดังกล่าว ว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ผาชะนะได อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ไม่ได้รับแสงพระอาทิตย์ก่อนใครในช่วงปีใหม่

แต่เป็นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แม้จะอยู่บนเส้นแวงที่ 102 ถัดจากผาชะนะไดประมาณ 2 องศา ควรจะได้รับแสงช้ากว่า อุบลราชธานี แต่ในช่วงนี้โลกมีแกนเอียง 

ขั้วโลกเหนือ เอียงหนีดวงอาทิตย์ ขั้วโลกใต้จะเอียงเข้าใกล้ดวงอาทิตย์  นราธิวาส แม้จะอยู่ทางใต้ และอยู่ถัดมาอีก 2 องศาเศษ แต่ก็ได้รับแสงก่อน 

ดังนั้นเช้าวันที่ 1 มกราคมตากใบจึงได้รับแสงก่อนผาชะนะได 

ตากใบอยู่ที่  102 องศา 5 ลิปดา 18 ฟิลิปดาตะวันออก แสงอาทิตย์แตะที่ 06:21 น.

อุบลราชธานี 105 องศา 35 ลิปดา 22 ฟิลิปดาตะวันออก แสงอาทิตย์แตะที่ 06.23 น.

ยอมรับว่าสมาคมดาราศาตร์คำนวณถูกต้อง แต่คนอ้างอิงเวลาปีใหม่ เราจะฉลองกันตามเวลา ตามเส้นแวง อุบลฯเส้นแวง 105 เป็นเวลาที่เดินมาถึงปีใหม่ก่อน แต่ตากใบอาจจะเห็นแสงก่อน ตามการคำนวณของสมาคมดาราศาสตร์ไทย

นอกจากนี้อาจารย์สมเกียรติ ยังได้อ่านข้อมูลจาก TNN คลิกอ่านข้อมูล TNN สมาคมดาราศาสตร์ไทย

และอธิบายเพิ่มเติมว่า โลกหมุนเหมือนลูกข่าง แกนเอียง ทำให้หลายพื้นที่รับแสงจากดวงอาทิตย์ในเวลาไม่เท่ากัน แกนของโลกทำมุมเอียง 21.5 ถึง 24.5 องศา มันทั้งเอียงทั้งฉวัดเฉวียน ขยับไปขยับมา ทำให้พื้นที่บริเวณชายหาดบ้านเกาะยาว หมู่ที่ 1 ตำบลเจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส บริเวณปากน้ำโกลก พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย มองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า ก่อน อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ประมาณ 2 นาที ในวันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นข้อมูล ที่ TNN อ้างอิง จากเว็บไซต์ของ สำนักงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NOAA)

สรุปว่า นราธิวาสเห็นแสงก่อน ในวันที่โลกเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์มากกว่า เพราะโลกกลมไม่ใช่แผ่นกระดาษ แต่มีข้อสังเกตเพิ่มเติมดังนี้

1.การคำนวณเดินทางของแสง ต้องคำนึงถึง สิ่งที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พูดไว้ว่า แสงไม่ได้เดินเป็นเส้นตรง แต่โค้งได้ ตั้งข้อสังเกตว่าการคำนวณของสมาคมดาราศาสตร์ไทย และ NOAA ได้คิดตรงนี้รวมเข้าไว้ด้วยหรือยัง อาจจะโค้งทำให้ 2 องศา ที่ห่างกันของ ตากใบ โขงเจียม เท่ากับศูนย์องศาหรือไม่? หรือถ้าไม่เท่ากับศูนย์องศา มีบวกนิดหน่อย อุบลราชธานี ก็อาจจะเห็นแสงก่อนก็ได้? อยากให้คิดต่อ และฝากให้ 2 จังหวัด ทำสงครามแสงอาทิตย์กัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อยากเชียร์คนไปดูแสงแรกให้เต็มที่

2.จากหนังสือ A Brief History Of Time ของ อ.Stephen Hawking ผู้ล่วงลับ เขียนไว้ว่า ดวงอาทิตย์ห่างจากโลก = 8 นาทีแสง เมื่อเราเดินออกไปนอกบ้านเห็นแสงอาทิตย์ นั่นไม่ใช่แสงตามเวลาจริง แต่เป็นแสงเมื่อ 8 นาทีที่แล้ว ดังนั้นแสงอาทิตย์ที่วิ่งไปถึงตากใบหรือวิ่งไปถึงโขงเจียม ใช้เวลา 8 นาที อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ต้องไปคำนวณหรือไม่? และถ้าพูดตามทฤษฎีนี้ ไม่ว่าเราจะเห็นแสงจากตากใบหรือโขงเจียม ก็ไม่ใช่แสงแรกแต่เป็นแสงเมื่อ 8 นาทีที่แล้ว ฝากไปถกเถียงกันเพื่อความสนุกสนาน และหาความรู้เพิ่มเติม

3. เวลาของปีใหม่ยังไง ๆ ก็ต้องเริ่มต้นที่อุบลราชธานี เพราะอยู่ตะวันออกสุดของเส้นแวง มนุษย์นับเวลาด้วยเส้นแวง ต่อให้เส้นแวงมันลากตรงแล้วโค้ง มันก็ยังเป็นเส้นแวงเดิม มนุษย์ไทยนับเวลาเส้นแวงที่ 105 การฉลองปีใหม่ถ้านับในเวลามืดของเที่ยงคืน อุบลราชธานีก็ต้องฉลองก่อนอยู่ดี เพราะเขาอยู่ที่ 105 แสงแรกกับเวลาขึ้นปีใหม่คนละเรื่องกัน แสงแรกเป็นเรื่องของแสงที่มากระทบสายตาเราที่ยืนอยู่บนแผ่นดิน ณ จุดใดจุดหนึ่ง

ขณะเดียวกัน นายสุรพล สายพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้มาแสดงความคิดเห็นบนเพจ UbonConnect ว่า “รับทราบมาเพราะแกนโลกเอียง ทำให้วันที่ 1 มค แสงแรกอาจจะไม่เป็นตามภูมิศาสตร์ แต่ใน 365 วัน ส่วนใหญ่จะเป็นที่นี่ครับ ผิดถูกต้องถามกันเองทางวิชาการ”