ปี 2565 จากข้อมูลของ กรมควบคุมมลพิษ จ.อุบลราชธานี มีขยะวันละ 1,654 ตัน นำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ 954 ตัน ที่กำจัดถูกต้อง 500 ตัน ที่ถูกกำจัดไม่ถูกต้องวันละ 200 ตัน ขยะตกค้างถึง 8,000 ตัน
ขยะที่ย่อยสลายยาก เช่น พลาสติก จะอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน เข้าไปในสัตว์ต่าง ๆ ที่เผลอกินเข้าไป กลับเข้ามาอยู่ในคนที่กินเนื้อสัตว์ พลาสติกประกอบด้วยธาตุสำคัญ คือ คาร์บอน, ไฮโดรเจน, และออกซิเจน นอกจากนี้อาจมีธาตุอื่นๆเป็นส่วนประกอบย่อย ซึ่งได้แก่ ไนโตรเจน, ฟลูออรีน, คลอรีน, และกำมะถัน
เมื่อพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า อาจส่งผลให้เกิดผลต่อระบบประสาท เม็ดเลือดแดง ตับ ไต และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็ง การลดพลาสติกจึงน่าจะเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อม ช่วยคน ช่วยโลก
แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีผลวิจัยใดที่ชี้สามารถชัดเจนเจาะจงลงไป เพราะองค์ประกอบของมนุษย์เราซับซ้อนยากจะฟันธง คนเราก็กินหลากหลายอย่างไม่เหมือนกันในแต่ละวัน ระบบทำลายพิษก็ต่างกัน มีภูมิต้านทานที่ไม่เท่ากัน มีสภาพสุขภาวะที่ต่างกัน อยู่ในสภาพอากาศ สภาพบ้าน สภาพที่ทำงานที่ไม่เหมือนกัน น่าจะใช้เวลานานชั่วชีวิตจึงจะมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ฟันธงได้
เหมือนกับ DDT ที่ออกมาใหม่ ๆ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็บอกว่าไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม ใช้เวลาเกือบ 100 ปี ถึงมีวิจัยชัดว่า เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์และทำให้สัตว์ป่าหลายชนิดโดยเฉพาะนก เช่น อินทรีหัวขาว มีจำนวนลดลงจนเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ฯลฯ หรือปัจจุบัน สารกำจัดแมลงศัตรูพืชต่าง ๆ ก็ยังทะเลาะกันไม่จบว่ามีผลกระทบต่อคน ต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่ ต้องมีงานวิจัย มีตัวเลขยืนยันจึงจะเชื่อกัน
ในประเทศไทย ใช้พลาสติกด้วยความสะดวกสบายจนเคยชิน การจะให้ลดละเลิก เป็นเรื่องที่ยาก
เราเริ่มตื่นตัวและออกกฎให้ห้าง ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ไม่ใส่ถุงพลาสติกให้ลูกค้าอย่างจริงจัง
มาเมื่อปี 63 ประมาณ 3-4 ปี มานี่เอง แต่อาหารก็ยังใส่ถุงพลาสติกขายเป็นปกติ ไม่ต้องพูดถึง หลอด ช้อน กล่องพลาสติกใช้แล้วทิ้งมหาศาล พอร้านค้าต้องให้ซื้อถุงพลาสติกเพื่อลดการใช้ บางคนยังกลับมีทัศนคติว่าเอาเปรียบผู้บริโภคก็ยังมี
ชีวิตส่วนตัวผู้เขียนเอง ก็ยอมรับว่ายากมาก ที่จะลดถุงพลาสติก ก็ได้แต่พยายามเลี่ยง พยายามลด แต่มีอย่างหนึ่งที่คิดว่าลดได้เยอะคือ หลอดพลาสติก เวลาไปซื้อเครื่องดื่มตามร้าน จะมีหลอดมาให้เสมอ
2 ปีมานี้ เมื่อผู้ขายหยิบหลอดมาให้ ก็จะมีคาถาว่า “ไม่รับหลอดครับ” ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ถึงกระนั้นเวลาสั่ง Delivery แม้จะระบุว่าไม่รับหลอด ไรเดอร์ก็จะเผลอส่งมาด้วยทุกครั้ง ด้วยความเคยชิน ผมคิดว่า ถ้าไม่ใส่มาจะถูกลูกค้าต่อว่าด้วย คงต้องใช้เวลาในการรณรงค์
การลดใช้ “หลอดพลาสติก” เป็นขั้นตอนสำคัญหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมและลดปัญหามลพิษที่เกิดจากพลาสติกในมหาสมุทรและที่อื่นๆ หลอดพลาสติกเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียวที่มักถูกทิ้งหลังจากการใช้งานเพียงครั้งเดียวและต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลายในธรรมชาติ
ผมจึงคิดว่าการลดใช้หลอดพลาสติกเป็นการดำเนินการที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เบื้องต้น อย่างไม่ยากนัก
ผลกระทบของหลอดพลาสติกต่อสิ่งแวดล้อม
มลพิษในมหาสมุทร : หลอดพลาสติกเป็นหนึ่งในขยะพลาสติกที่พบมากที่สุดในมหาสมุทร ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและนกทะเลที่อาจกลืนหลอดพลาสติกเข้าไปโดยเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร
ย่อยสลายยาก : หลอดพลาสติกต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลาย ระหว่างนี้ มันจะแตกตัวเป็นชิ้นเล็กๆ หรือไมโครพลาสติกที่สามารถเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและนำไปสู่ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์
พบไม่โครพลาสติกเทียบเท่าบัตรเครดิตในคน : จากงานศึกษาโดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล WWF ร่วมกับ มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลในออสเตรเลีย ทำการวิจัยหาปริมาณพลาสติกจากแหล่งธรรมชาติสู่วงจรบริโภคของมนุษย์ พบว่า มนุษย์อาจบริโภคไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย ในปริมาณกว่า 2,000 ชิ้น หรือ 5 กรัมต่อสัปดาห์ เทียบเท่ากับบัตรเครดิต 1 ใบ คิดเป็น 20 กรัมต่อเดือน 240 กรัมต่อปี !
วิธีลดการใช้หลอดพลาสติก
1 “ไม่รับหลอดจ้า” : คาถาปฏิเสธการใช้หลอดพลาสติก! เมื่อสั่งเครื่องดื่มที่ร้านค้า ให้ระบุว่าไม่ต้องการหลอดพลาสติก การปฏิเสธการใช้หลอดพลาสติกคือการแสดงจุดยยืนในการรักษาสิ่งแวดล้อมของคุณ
2 ดื่มโดยตรงไม่ต้องผ่านหลอด : ถ้าพอดื่มจากขวด ดื่มจากแก้วโดยตรงได้ ก็ดื่มโดยตรงเลย ไม่ต้องอาย หรือกลัวคนจะว่าไม่สุภาพ เพราะยุคนี้ผู้ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม คือผู้ที่หยาบคายกว่า
3 ใช้หลอดที่ทำจากวัสดุอื่นแทน : เลือกใช้หลอดที่ทำจากวัสดุทดแทน เช่น หลอดกระดาษ, หลอดแก้ว,
หลอดสแตนเลส หรือหลอดไผ่ เป็นต้น วัสดุเหล่านี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า (ปัจจุบันยังไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ผมเองเวลาดูหลอดกระดาษบางทีมันเปื่อยหมดก่อน!เวลาคงทำให้ได้มีการพัฒนามากขึ้น)
4 นำหลอดส่วนตัวไปใช้ : พกหลอดที่สามารถใช้ซ้ำได้ไปกับคุณเมื่อออกจากบ้าน นอกจากจะช่วยลดการใช้หลอดพลาสติกแล้ว ยังเป็นการลดความจำเป็นในการผลิตหลอดพลาสติกใหม่ ๆ
5 สนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : สนับสนุนร้านค้าและแบรนด์ที่มีนโยบายลดการใช้พลาสติก และสนับสนุนนโยบายท้องถิ่นหรือระดับชาติที่จำกัดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียว
6 การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความแตกต่าง การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นจากตัวเรานี่แหละ แม้ทำเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ การลดการใช้หลอดพลาสติกเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ง่ายที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อลดปัญหามลพิษจากพลาสติก ผ่านการทำเลือกใช้หลอดที่ยั่งยืน ปฏิเสธหลอดพลาสติก และสนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราสามารถช่วยลดผลกระทบต่อโลกของเราและรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนได้
ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ :
กรมควบคุมมลพิษ : https://thaimsw.pcd.go.th/report_province.php?year=2565&province=23
DDT : https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5
World Wildlife Fund (WWF) https://www.worldwildlife.org/stories/meet-the-newly-discovered-ocean-species-plastic
Ocean Conservancy. “Fighting for Trash Free Seas.” https://oceanconservancy.org/trash-free-seas/
National Geographic. “Plastic or Planet.” https://www.nationalgeographic.com/environment/planetorplastic/
United Nations Environment Programme (UNEP). “Beat Plastic Pollution.” [https://www.unenvironment.org/interactive/beat-plastic-pollution/]
Chat GPT
04.02.67
สุชัย เจริญมุขยนันท เขียนและเรียบเรียง
ร่วม แลกเปลี่ยนความรู้ ความเห็น ทางออก ของปัญหา กดเข้าร่วมโอเพนแชท : รับมือโลกที่เปลี่ยนไป