อ่านให้ฟัง โดย สุชัย Ai จาก Botnoi
อส.ศรีเมืองใหม่เปิดหน้าชนนายอำเภอร้องสื่อย้ายเข้าจังหวัดไม่เป็นธรรม
อส.อ.ศรีเมืองใหม่ สุดทนร้องสื่อมวลชนขอความเป็นธรรม พร้อมเปิดหน้าชนนายอำเภออ้างถูกย้ายไม่เป็นธรรม เหตุขัดใจไม่พา จนท.สาวหน้าห้องไปชงเหล้า ด้านนายอำเภอเผยไม่เป็นความจริงย้ายเพราะมีพฤติกรรมขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ส่วน จนท.หน้าห้องย้ายเพราะให้มีการเรียนรู้ในสายงานใหม่
เมื่อช่วงบ่ายวาน (15 พ.ย.) นายหมู่ใหญ่นิธิทัศน์ คำสุก 38 ปี ตำแหน่ง ตำแหน่งลูกแถว กองร้อย อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.)อ.ศรีเมืองใหม่ที่ 6 พร้อมพวกกว่า 10 คน เข้าร้องต่อสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมกรณีนายโกวิท แก้วสุขอยู่เจริญ นายอำเภอศรีเมืองใหม่ หลังมีหนังสือส่งตัวนายหมู่ใหญ่นิธิทัศน์ คืนต้นสังกัดอย่างไม่เป็นธรรม โดยนายหมู่ใหญ่นิธิทัศน์ อ้างว่าเหตุที่นายโกวิทส่งตัวไปยังต้นสังกัดนั้นเพราะไม่พอใจที่ตนเองไม่สามารถนำ จนท.หน้าที่สาวหน้าห้องไปช่วยบริการชงเหล้าที่บ่อนไก่ของผู้นำชุมชนรายหนึ่งไม่ได้ ตนจึงถูกต่อว่าพร้อมทั้งระบุว่ามีพฤติกรรมในหนังสือว่า ดือดึง ขัดขืนคำสั่งผู้บังคับบัญชา
นายหมู่ใหญ่นิธิทัศน์ เปิดเผยว่าตนเองและเพื่อน อส.รวม ตัวกันมาพบสื่อมวลชนเพราะได้รับเดือดร้อนจากพฤติกรรมของนายโกวิท อำเภอศรีเมืองใหม่ สั่งให้นำรถยนต์ตรวจการณ์ของหลวงไปใช้ส่วนตัวขนไม้แปรรูปในที่ดินของญาติไปบ้านสวนของตนเอง ใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ อส.ไปทำงานส่วนตัวที่บ้านสวน พร้อมหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ และ ภาพถ่ายขณะที่นายโกวิท (เสื้อแดง) ยืนคุมลูกน้อง อส.ตัดไม้ ทำรั้วที่บ้านสวนส่วนตัวในช่วงเวลาราชการ
มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้อาวุธปืนข่มขู่ลูกน้องขณะที่เมาสุรา (มีภาพถ่าย วีดีโอ) ใช้ถ้อยคำหยาบคายกับลูกน้อง ท่านเป็นผู้บริหารสูงสุดของอำเภอศรีเมืองใหม่ ไม่ควรกระทำการที่ไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างนั้นวันนี้ตนเองและเพื่อน อส.อยากให้ทางสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบและนำเสนอข่าว เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ อส. เพราะปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างไม่มีความสุข บางวันทานข้าวเที่ยงตอน 15:00 น บางวันถูกใช้งานจนค่ำมืดจนไม่ได้ไปดูแลครอบครัว
นายหมู่ใหญ่นิธิทัศน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีของตนเป็นพลขับให้กับนายอำเภอมีความใกล้ชิดมากที่สุดเมื่อ 2 วันก่อนนายอำเภอไปดื่มเหล้าในบ่อนไก่และได้สั่งให้ตนกลับมาเอาแฟ้มเอกสารพร้อมกับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่เป็นหน้าห้องไปส่งช่วยชงเครื่องดื่ม แต่ด้วยใกล้เลิกงาน 16.00 น. น้องหน้าห้องจึงไม่อยากไปเพราะน้องบอกไม่สบาย ตนจึงได้กลับไปแจ้งนายอำเภอว่าน้องไม่สามารถมาได้เนื่องจากไม่สบาย
หลังจากที่ขึ้นรถกลับ ตนก็ถูกนายอำเภอด่าด้วยคำหยาบคายเอาอาวุธปืน มาควงเล่นพร้อมกับตนว่าขัดคำสั่ง ขัดขืนดื้อดึง จนล่าสุดมีคำสั่งส่งตัวคืนต้นสังกัดด้วยความไม่เป็นธรรม เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ถูกย้ายให้ไปประจำที่จังหวัด ส่วนน้องผู้หญิงเจ้าหน้าที่จากที่เคยอยู่หน้าห้อง ก็ถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายทะเบียน
จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนสุดที่จะทนในพฤติกรรมจึงได้ตัดสินใจเปิดหน้าร้องเรียนนายโกวิท เพื่อให้ย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากนี้ก็จะไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และก็จะนำเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงาน ปปช. จังหวัดอุบลราชธานี แต่ถ้าหากเรื่องยังไม่ได้รับความเป็นธรรมยังไม่คืบหน้า ตนก็จะเดินทางเข้ากระทรวงพบนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย
ด้านนายโกวิท นายอำเภอศรีเมืองใหม่ ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องของการนำเจ้าหน้าที่ อส.ไปใช้งานส่วนตัวนั้นไม่เป็นความจริง เป็นการว่าจ้างด้วยเงิน 10,000 บาท เพื่อทำงานนอกเวลาราชการทั้งนี้ตนเองเห็นว่ามีลูกน้องเป็นช่างจึงอยากให้มีรายได้ไปใช้จ่ายในครอบครัวไม่ได้มีการใช้ฟรีแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นเรื่องให้เจ้าหน้าที่หญิงหน้าห้องไปให้บริการชงเครื่องดื่มไม่ใช่ความจริงตนสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปและองค์หลวงปู่มั่น ว่าถ้าตนให้น้องเจ้าหน้าที่หน้าห้องให้ไปชงสุราแล้วโยกย้ายน้องไปของให้ตนชิปหาย ให้มีอันเป็นไป เพราะความจริงตนแค่บอกให้คนขับรถมาเอาแฟ้มแล้วมากับคนขับรถไม่เคยบอกให้ไปเสิร์ฟไปชงสุราให้นายอำเภอ ตนสาบานต่อหน้าพระเพราะคือความเป็นจริง
กรณีที่มีคำสั่งส่งตัวนายหมู่นิธิทัดน์ คำสา ตำแหน่ง ลูกแถวคืนต้นสังกัดเพราะมีพฤติกรรมดื้อดึง ขัดขืน หลีกเลี่ยง ละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของตน อาจจะเพราะว่าตนเองกับนายหมู่นิธิทัดน์ มีความสนิทกันตั้งแต่ตนเป็นปลัดอำเภอจากนั้นก็ได้ร่วมงานกันเป็นช่วงๆ เกือบ 10 ปี ก่อนมาขับรถให้ตน ที่ผ่านมานายหมู่นิธิทัดน์ขัดคำสั่งตนหลายครั้งจึงจำเป็นต้องส่งตัวกลับเพื่อให้มีระเบียบวินัยมากขึ้น
ด้านนางสาวนุสรา จันทร์เพชร อายุ 32 ปี ตำแหน่งลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ปกครอง เล่าว่าตนเองเป็นเลขาท่านนายอำเภอ ตอนนี้ได้ย้ายมาอยู่สำนักทะเบียนปรับเปลี่ยนกับน้องเจ้าหน้าที่ที่มาใหม่ เรื่องประเด็นที่ตนถูกย้ายมาเพราะขัดใจในอำเภอ ตนไม่ทราบเรื่อง แต่เมื่อวันก่อนท่านนายอำเภอให้เอาแฟ้มไปเสนอแต่ว่าตนเองไม่สบาย จึงไม่ได้ไปพบท่านนายอำเภอ และฝากเรียนท่านนายอำเภอกับเจ้าหน้าที่ อส.ติดตามว่าตนเองไม่สบายจึงไม่ได้ไป แต่ตนเองก็ไม่ทราบถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น สำหรับการที่ตนย้ายมาปฏิบัติงานที่สำนักทะเบียน ตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่ดีได้หาประสบการณ์ใหม่ เพราะตนเองอยู่หน้าห้องมานาน แต่ด้านงานทะเบียนตนยังไม่เคยเรียนรู้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีได้มาช่วยที่สำนักทะเบียน และจะได้มีเวลาว่างเพื่ออ่านหนังสือสอบ ส่วนเรื่องของการเรียกตนให้ไปเสิร์ฟสุรานั้นไม่มี