อ่านให้ฟัง จาก สุชัย Ai โดน Botnoi
เมื่อเวลา 21.30 น.(28 พ.ย.) พ.ต.ท.ณัฐกร พลภักดี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุบลราชธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เข้าปิดล้อมบ้านพักอาศัยของนางสาวเบ็ญจวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อดีตเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพ หลังได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายงัดเข้าไปในบ้าน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นมีกำแพงล้อมรอบ บริเวณชั้น 2 ของบ้านมีเสียงเปิดน้ำและเปิด ปิด ไฟทั้งที่ไม่มีผู้อาศัย เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี่ยกล่อมให้คนร้ายออกมามอบตัวนานกว่า 30 นาที แต่ก็ไม่เป็นผลจึงได้นำเอากุญแจสำรองจากญาติมาเปิดและตรวจค้นชั้น 2 พบว่าประตูห้องนอนทางด้านทิศตะวันออกประตูถูกล็อคจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงได้พังประตูเข้าไปพบ คนร้ายเป็นชายไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นลายดอกสีชมพู นอนอยู่บนที่นอนจึงได้เข้าควบคุมตัว ทราบชื่อคือ นายเลิศชาย (โจ๊ก) โมตะมะ อายุ 37 ปี ชาวบ้าน ตำบลดงหม้อทองใต้ อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร
สอบถามนายจักร์ ขัมภรัตน์ อายุ 37 ปี หลานชายนางเบ็ญจวรรณ เปิดเผยว่าเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ตนได้รับโทรศัพท์จากนางสาวเบ็ญจวรรณ ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าว่าให้มาตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุ เนื่องจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเก้าอี้ที่ชั้นล่างของบ้านถูกย้ายที่และน่าจะมีคนร้ายอยู่ในบ้าน
ตนจึงได้เดินทางมาตรวจสอบพบว่าบริเวณชั้น 2 ของบ้านมีคนเปิดน้ำ มีการเปิด ปิดไฟในห้องนอนจริง จึงมั่นใจว่ามีคนร้ายอยู่ในบ้านจริงจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ นายจักร์ ยังบอกอีกว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนร้ายเข้ามาในบ้านก่อนหน้าวันเดียวกันเมื่อปี 2566 มีคนร้ายเข้ามาบ้านแล้ว 1 ครั้ง จึงได้มีการติดกล้องวงจรปิด ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมาคนร้ายก็เข้ามาอีกครั้ง กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ตรวจสอบจากตำหนิรูปพรรณพบว่าเป็นนายเลิศชาย
จากการสอบถามนายเลิศชายให้การอ้างว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนายเลิศชายที่สร้างไว้นานแล้ว เพิ่งกลับมาจากอีสานเหนือจึงได้เข้ามาบ้านเพื่อพักผ่อนชาวบ้านโดยรอบรู้จักตนเป็นอย่างดี แล้วตำรวจมาจับตนเองได้อย่างไร
ขณะที่นางสาวเบ็ญจวรรณ แล้วยืนยันไม่รู้จักนายเลิศชายแต่อย่างใด แต่กลับมีพยานเป็นชาวบ้านให้ข้อมูลว่านายเลิศชายหรือ โจ๊ก มาอาศัยขอข้าวพระอยู่วัดดอนกลางกินมาประมาณเกือบเดือนแล้ว เป็นคนที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เสพยา มีแต่สูบยาเส้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายไม่พบ จึงได้ควบคุมตัวแจ้งข้อหาบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ส่วนเรื่องของการลักทรัพย์ หรือทำให้เสียทรัพย์ ต้องรอให้เจ้าของบ้านตรวจสอบและแจ้งทางพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในภายหลัง