อ่านให้ฟัง จาก สุชัยเอไอ โดย Boynoi
ทรัมป์ขึ้นแท่นประธานาธิบดีสหรัฐฯ นักวิชาการแนะชาวอุบลฯ เตรียมรับมือผลกระทบเศรษฐกิจและการค้าโลก
หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา และเตรียมเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568 กระแสวิพากษ์วิจารณ์ได้เริ่มต้นขึ้นทั่วโลกเกี่ยวกับนโยบายที่จะมีผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจ การค้า และสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงผลกระทบต่อประเทศไทย แล้วนักธุรกิจในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
ดร.ธรรมวิมล สุขเสริม รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิเคราะห์ว่า นโยบายของทรัมป์ที่เน้นปกป้องอุตสาหกรรมและแรงงานในสหรัฐฯ อาจนำไปสู่การกีดกันทางการค้า (Protectionism) เพิ่มเติม เช่น การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมถึงสินค้าไทย ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจในอุบลฯ ที่พึ่งพาการส่งออก เช่น เกษตรกรรมและหัตถกรรมท้องถิ่น ประสบปัญหายอดขายลดลง
ประเด็นสำคัญและแนวทางการรับมือ:
- นโยบายกีดกันทางการค้า: หากทรัมป์ปรับเพิ่มภาษีนำเข้า อุตสาหกรรมที่อุบลฯ ควรจับตามองคือผลิตภัณฑ์จากข้าวหอมมะลิและสินค้าหัตถกรรมที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ
- แนวทางรับมือ: ขยายตลาดสู่ประเทศอื่นในอาเซียนหรือยุโรป และพัฒนามาตรฐานสินค้าท้องถิ่นเพื่อให้แข่งขันในตลาดโลกได้
- ผลกระทบทางอ้อมจากค่าเงิน: นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐฯ อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทผันผวน มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทย
- แนวทางรับมือ: ผู้ประกอบการควรติดตามค่าเงินและพิจารณาการทำสัญญาการเงินล่วงหน้า (Hedging) เพื่อลดความเสี่ยง
- แรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม: การเพิกถอนสนธิสัญญาสิ่งแวดล้อมอาจส่งผลให้โลกร้อนขึ้นเร็วขึ้น ซึ่งกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่ที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติ
- แนวทางรับมือ: เกษตรกรควรปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูกให้ทนต่อสภาพอากาศแปรปรวน และหน่วยงานท้องถิ่นควรสนับสนุนโครงการอนุรักษ์น้ำ
- ผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็ก: ร้านอาหารและธุรกิจท้องถิ่นในอุบลฯ อาจไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่หากเศรษฐกิจโลกถดถอย จะส่งผลต่อกำลังซื้อในประเทศ
- แนวทางรับมือ: เสริมสร้างเครือข่ายธุรกิจท้องถิ่นและสนับสนุนให้ชุมชนบริโภคสินค้าภายในพื้นที่
วิธีรับมือผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์: สำหรับคนอุบลราชธานี
- สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรส่งออก:
- พัฒนามาตรฐานสินค้า: เพิ่มคุณภาพสินค้าเกษตร เช่น ข้าวหอมมะลิ เพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้นและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ แม้จะมีอุปสรรคด้านภาษีและการกีดกันทางการค้า
- ขยายตลาดส่งออก: หันไปมองหาตลาดใหม่ในภูมิภาคอื่น เช่น จีน ญี่ปุ่น และประเทศในยุโรป ที่ยังคงมีความต้องการสินค้าคุณภาพจากไทย
- ใช้กลยุทธ์ทางการเงิน: ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เพื่อรับมือกับความผันผวนของค่าเงินบาท
- สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและธุรกิจท้องถิ่น:
- สนับสนุนการบริโภคในชุมชน: ส่งเสริมให้ชาวอุบลฯ ซื้อสินค้าและบริการที่ผลิตในพื้นที่ เช่น การซื้อของฝากจากร้านค้าท้องถิ่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน
- พัฒนาแบรนด์สินค้า: เพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยการสร้างเอกลักษณ์ เช่น การตลาดเชิงวัฒนธรรม (Cultural Branding) เพื่อดึงดูดผู้ซื้อจากต่างประเทศ
- เรียนรู้การขายออนไลน์: ขยายการขายสินค้าไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้สินค้าท้องถิ่นสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้
- สำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว:
- พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม: ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวในอุบลฯ ให้มีความยั่งยืนและน่าสนใจมากขึ้น เช่น การเพิ่มโปรแกรมนำเที่ยวชุมชนหรือเทศกาลท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ: กระตุ้นให้ชาวไทยมาเที่ยวอุบลฯ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษหรือแพ็กเกจการท่องเที่ยวในพื้นที่
- สร้างความร่วมมือ: ร่วมมือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายอื่นเพื่อสร้างแพ็กเกจแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว
- สำหรับชุมชนและผู้นำท้องถิ่น:
- จัดอบรมความรู้ด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม: อบรมให้ความรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับวิธีการปรับตัว เช่น การใช้พลังงานทางเลือก หรือการเกษตรที่ยั่งยืน
- พัฒนาความร่วมมือในชุมชน: สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเกษตรกร นักธุรกิจ และนักวิชาการในท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน
- ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการ: ใช้เทคโนโลยี เช่น การติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติด้วยดาวเทียม หรือแอปพลิเคชันช่วยการวางแผนการผลิตและการตลาด
- สำหรับนักศึกษาและแรงงานท้องถิ่น:
- พัฒนาทักษะใหม่: เพิ่มพูนทักษะด้านดิจิทัล ภาษาอังกฤษ หรือทักษะที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและการค้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน
- เรียนรู้การทำธุรกิจออนไลน์: ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้การสร้างธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น การขายสินค้าทาง Facebook หรือ Shopee
- สำหรับทุกคนในอุบลราชธานี:
- สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น: ร่วมมือกันใช้บริการและซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด
- ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด: คอยติดตามนโยบายและแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบ และปรับตัวอย่างเหมาะสม
- ร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: ลดการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง และสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อเตรียมรับมือกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในอนาคต
วิธีการเหล่านี้เน้นการปรับตัวในทุกภาคส่วนของชาวอุบลราชธานี เพื่อสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในระยะยาว แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากผลกระทบของนโยบายโลก
ผลกระทบจากการขึ้นดำรงตำแหน่งของทรัมป์อาจเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับชาวอุบลฯ ขึ้นอยู่กับการปรับตัวและการวางแผนรับมือ การขยายตลาด การใช้เทคโนโลยี และการสร้างความร่วมมือในชุมชนจะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของจังหวัดต่อไป.