ข่าวด่วน
Sun. Jun 29th, 2025
disaster

อ่านให้ฟังจาก สุชัย Ai โดย Botnoi

อุบลฯ รวมพลังป้องกันน้ำท่วม ปี 2568 เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ พร่อมน้ำก่อนฝนมา เตือนภัยล่วงหน้าระบบ CBS อุตุฯเตือนพายุล่วงหน้าแม่นยำ 3 วัน ใช้รถแห่แจ้งเตือนชุมชน

วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ที่โรงแรมอุบลบุรีรีสอร์ท อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จัดเวทีเสวนา “การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำจังหวัดอุบลราชธานี ปี 2568” โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง สร้างการรับรู้แก่ประชาชน และลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน มีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน จากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม

นายประเสริฐ ปุระถานัง ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง คาดการณ์ว่าปี 2568 อุบลราชธานีอาจเผชิญพายุ 1-2 ลูก โดยระยะพยากรณ์ที่แม่นยำที่สุดคือ 3-5 วันล่วงหน้า ฝนจะตกมากในช่วงสิงหาคม-ตุลาคม โดยเฉพาะจากน้ำต้นทางของแม่น้ำมูลและชีจากจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด และยโสธร ซึ่งไหลลงสู่อุบลฯ ที่เป็นพื้นที่ปลายน้ำ

เตือนประชาชนระวังข่าวลือและข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสภาพอากาศ เช่น ข่าวน้ำท่วมรุนแรงในรอบ 50 ปี โดยแนะนำให้ติดตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น (โทร. 045-244189)

ปัญหาที่ผ่านมา: ประชาชนมักสับสนและโทรสอบถามระดับน้ำ ซึ่งเกินหน้าที่ของอุตุฯ ที่รับผิดชอบเฉพาะพยากรณ์อากาศ

นายวุฒิชัย ศรีทอง ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 7 กล่าวว่า อุบลฯ เป็นพื้นที่ปลายน้ำ รับน้ำจากแม่น้ำมูลและชี ทำให้เผชิญน้ำท่วมเกือบทุกปี สาเหตุหลักคือลักษณะกายภาพของพื้นที่และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ลานีญา

ปี 2568 คาดว่าน้ำจะเยอะจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำ การรีบระบายน้ำก่อนที่ฝนจะมาช่วยให้ลดระดับของน้ำท่วมได้ และเสนอใช้ “แก้มลิง” ธรรมชาติ 8-9 จุดในเขตเมืองและวารินชำราบ เพื่อเก็บน้ำได้ 150-350 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ต้องปรับปรุงพื้นที่ตื้นเขินและแก้ปัญหาการบุกรุก

แนวทางป้องกัน: ขุดลอกแก้มลิงให้ลึก ทำท่อรับน้ำ และบริหารจัดการน้ำก่อนฤดูฝนโดยพร่องน้ำให้อยู่ในระดับปลอดภัย

ปัญหาที่ผ่านมา: การแจ้งเตือนน้ำท่วมอาจไม่ครอบคลุมทุกชุมชน เสนอเพิ่มช่องทางการแจ้งเตือน เช่น ป้ายไวนิล รถแห่ และการแจ้งผ่านโทรศัพท์

นายบุญเลิศ แสงระวี ช่างระดับ 10 ตัวแทนกองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร ชี้แจงว่าเขื่อนปากมูลไม่ใช่สาเหตุหลักของน้ำท่วม ระดับน้ำมูลที่สถานี M7 สูงกว่าน้ำโขงเฉลี่ย 10 เมตร ทำให้ระบายน้ำได้ตามปกติ แม้ในช่วงน้ำโขงหนุน ระดับน้ำต่างกันยังคงสูงถึง 13-14 เมตร

การวางแผนรักษาระดับน้ำที่เขื่อนปากมูลปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 106.8 เมตร รทก. เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่ง แต่ละปีต้องดูสถานการณ์ โดยทางคณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปากมูล จะเป็นผู้กำหนดว่าจะให้เปิดเขื่อนเมื่อไร ทางเขื่อนยินดีทำตามมติอนุกรรการฯ

ปัญหาที่ผ่านมา: ความเข้าใจผิดว่าการหนุนของน้ำโขงทำให้ระบายน้ำไม่ได้ ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ไม่เป็นปัญหาสำคัญ

ดร.รุ่งนภา ทับหนองฮี รองปลัดเทศบาลเมืองวารินชำราบ รักษาราชการแทนปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองวารินชำราบ คาดว่าหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม จะมีนายกเทศมนตรีที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ก่อนช่วงน้ำท่วมในเดือนตุลาคม ภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ที่ผ่านมาเทศบาลฯ มีการเก็บข้อมูลน้ำท่วมย้อนหลังตั้งแต่ปี 2493 และวิเคราะห์ข้อมูลในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา วิเคราะห์ผลกระทบตามระดับน้ำ: ระดับน้ำ 6-7 เมตร: มีครัวเรือนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน (น้ำท่วมขังปกติ) ระดับน้ำ 7.50 เมตรขึ้นไป: ผลกระทบรุนแรงมากขึ้น มีแผนจัดตั้งจุดพักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัย โดย: ระดับน้ำไม่เกิน 9 เมตร: ใช้พื้นที่ใต้สะพานเสรีประชาธิปไตย (ปรับปรุงโดยนายกเทศมนตรี) ระดับน้ำเกิน 9 เมตร: จัดศูนย์พักพิงในพื้นที่ปลอดภัย เช่น ค่าย มทบ.22 ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง จัดระบบให้ประชาชนสามารถสัญจรกลับไปดูแลบ้านเรือนได้ เพื่อลดความกังวลเรื่องทรัพย์สิน

บทสรุปแนวทางป้องกันน้ำท่วม

  1. พร่องน้ำก่อนฤดูฝน: ที่ประชุมเห็นพ้องให้รักษาระดับน้ำที่ 106.8 เมตร และเริ่มพร่องน้ำตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อลดปริมาณน้ำก่อนฝนตกหนัก
  2. แจ้งเตือนฉุกเฉินผ่าน CBS: ปภ.จังหวัดยืนยันใช้ระบบ Cell Broadcast Service (CBS) แจ้งเตือนน้ำท่วมถึงโทรศัพท์ทุกเครื่องในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้ข้อมูลถึงประชาชนทันท่วงที
  3. พยากรณ์พายุและเตือนภัยล่วงหน้า: กรมอุตุฯ คาดการณ์พายุ 1-2 ลูกในภาคอีสานล่าง ระยะพยากรณ์แม่นยำ 3-5 วัน พร้อมเตือนประชาชนติดตามข้อมูลจากช่องทางทางการ และระวังข่าวลือ
  4. เพิ่มช่องทางการแจ้งเตือนในชุมชน: ผู้ว่าราชการจังหวัดเน้นย้ำให้ใช้รถแห่เข้าแจ้งเตือนทุกชุมชนที่เสี่ยงภัย รวมถึงติดตั้งป้ายไวนิลและแจ้งผ่านโทรศัพท์ เพื่อให้ข้อมูลครอบคลุม
  5. ใช้แก้มลิงและปรับปรุงการระบายน้ำ: ชลประทานจะพัฒนาแก้มลิงธรรมชาติ 8-9 จุด เพื่อเก็บน้ำและชะลอน้ำท่วม พร้อมพิจารณาติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่แก่งสะพือเมื่ออัตราการไหลเหมาะสม
  6. เสริม Big Bag และศูนย์พักพิง: เสริม Big Bag ในชุมชนเสี่ยง และเจรจาเอกชนเพื่อใช้พื้นที่เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก

Related Post