ในรายการ “โคแฟคสนทนา: รวมพลคนเช็กข่าว EP.23” ตอน “Trick or Truth เราจะรู้ทันยังไง มิจฉาชีพที่น่ากลัวกว่ากุ๊กกู๋ฮาโลวีน” ออกอากาศวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 พ.ต.ท.ประวิทย์ วงษ์เกษม รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 เปิดเผยข้อมูลชี้ว่า มิจฉาชีพออนไลน์สร้างความเสียหายรุนแรงโดยอาศัย “ทฤษฎีความกลัว” หลอกเหยื่อให้โอนเงินด้วยมือตนเองถึง 95% ของคดีทั้งหมด
พ.ต.ท.ประวิทย์ กล่าวถึงการแจ้งความคนเดียวกับการแจ้งความกลุ่มอย่างไหนจะดีกว่าว่า “ระบบรับแจ้งความออนไลน์มีแอดมินดูแลหลังบ้านอยู่แล้ว หากเป็นแพลตฟอร์มเดียวกันหรือบัญชีม้าเดียวกัน จะรวมคดีอัตโนมัติ ไม่ว่าจะแจ้งเดี่ยวหรือกลุ่ม การรวมกลุ่มมีผลต่อสื่อมากกว่า ไม่ได้กระทบกระบวนการตำรวจ แจ้งตามสะดวกได้เลย”
จากนั้น พ.ต.ท.ประวิทย์ เผยสถิติตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2568:
รับแจ้งความออนไลน์กว่า 1,058,000 คดี
มูลค่าความเสียหายรวม 100,000 ล้านบาท
เฉลี่ยวันละ 77 ล้านบาท
เดือนกันยายน 2568 ล่าสุด: 32,625 คดี เฉลี่ยวันละ 1,000+ คดี มูลค่าเสียหายวันละ 78 ล้านบาท (เฉพาะที่แจ้ง ไม่รวมไม่แจ้ง ซึ่งอาจสูงกว่าเท่าตัว)
พ.ต.ท.ประวิทย์ ชี้ทำไมยังมีคนโดนหลอกทั้งที่มีข่าวเตือนทุกวัน?ว่า “คนรู้ว่ามีมิจฉาชีพ แต่ไม่คิดว่าจะเจอตัวเอง สัญญาณ 4G/5G/WiFi ถึงตัวใคร มิจฉาชีพถึงตัวนั้น ทุกคนที่แจ้งความบอก ‘ไม่เคยเห็นข่าวแบบนี้’ ทั้งที่คดีโรแมนซ์สแกมหรือหลอกเป็นตำรวจปอยเปตมีมาตั้งแต่ปี 2565”
พ.ต.ท.ประวิทย์ อธิบาย “ทฤษฎีความกลัว” คือหลักการตลาดที่มิจฉาชีพนำมาใช้ เช่น กลัวซื้อไม่ทัน กลัวไม่ได้ของถูก กลัวไม่ได้รางวัล กลัวไม่มีงานทำ กลัวเพื่อนโกรธ (มุก ‘จำได้ไหมเพื่อนรัก’) แบ่งคดี 14 ประเภท เช่น
- หลอกซื้อขายสินค้า (อันดับ 1)
- หลอกโอนเงินรับรางวัล
- หลอกทำงานที่บ้าน
- โรแมนซ์สแกม (แบ่ง 3 ระดับ ตั้งแต่อายุ 15-80 ปี ผู้สูงอายุเหงาเสพติดอะดรีนาลีนจากความตื่นเต้น)
เขาย้ำว่า มิจฉาชีพมี 2 วิธีหลัก:
- 95% – หลอกทุกช่องทาง (โทร/LINE/FB/TikTok) ให้เหยื่อโอนเงินเอง (ต้องบอกเลขบัญชี/QR Code)
- 5% – หลอกติดตั้งแอปควบคุมมือถือ (ส่งลิงก์ให้กด)
ตนจึงพัฒนา แอป Cyber Check (in iOS/Android) ตรวจสอบ 7 ฟังก์ชัน: เบอร์โทร, เลขบัญชี, SMS, LINE ID/ลิงก์, FB ลิงก์, TikTok Username, เว็บไซต์ แสดงผล 3 สี:
- แดง: ดำเนินคดีแล้ว
- เหลือง: มีร้องเรียน
- เขียว: ยืนยันตัวตน (ตำรวจ 25,000 ราย, เพจตำรวจ, ปปง., ตลท., ธปท. ลงทะเบียดแล้ว)
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ประวิทย์ ยังแนะ “ครั้งแรกในการชำระเงิน ควรขอเลขบัญชีแทน QR Code เพราะ QR ตรวจสอบยาก หากจำกัดเวลาโอน (5-15 นาที) สงสัย 90% เป็นมิจฉาชีพ เพื่อทดสอบบัญชีอายัดหรือไม่ ธนาคารปัจจุบันอายัดเร็วมาก”
ผู้ชมถามว่ามิจฉาชีพรู้ล่วงหน้าหรือไม่ว่าเหยื่อมีเงินเท่าไหร่
พ.ต.ท.ประวิทย์ บอก “สุ่มหมด ไม่รู้ใครมีเงิน แม้หลักสิบก็หลอก บางรายมี 5 ล้าน โดนหมดแล้วกู้เพิ่ม 21 ล้าน รวมเสีย 26 ล้าน มิจฉาชีพเหมือนเซลล์ทำยอด”
บทสรุปในการป้องกันมิจฉาชีพ:
- ตั้งสติไตร่ตรองตามหลักกาลามสูตร – อย่าเชื่อทันทีหากกลัว/รีบร้อน
- ดาวน์โหลด Cyber Check เช็คทุกช่องทางก่อนโอน/กดลิงก์ (สีเขียว=ปลอดภัย)
- ครั้งแรกขอเลขบัญชี แทน QR Code หากจำกัดเวลา=สงสัย
- ไม่มั่นใจ Add LINE Official @cybercheck ถามตำรวจไซเบอร์ได้
- โดนแล้วแจ้งความออนไลน์ทันที + โทรธนาคารตัวเองอายัดบัญชีปลายทาง
“มิจฉาชีพอยู่ข้างตัวผ่านสัญญาณเน็ต ใช้สติ + Cyber Check ป้องกันได้” พ.ต.ท.ประวิทย์ ฝากทิ้งท้าย

