อ่านให้ฟัง จาก สุชัย Ai โดย Botnoi
จากความประทับใจในความสามัคคีของเสรีไทยใน แถบอีสานเหนือ สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ทำให้จิตรกรผู้มีความมุ่งมั่นจะนำจิตรกรรมมาทำให้คนไทย ได้ตระหนักถึงวีรกรรมของเสรีไทยทั่วประเทศ
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเดินทางไปยังดินแดนอีสานใต้ ใน จังหวัดซึ่งทหารญี่ปุ่นทำพิธีมอบดาบซามูไรยอมรับความปราชัยใน สงครามมหาเอเชียบูรพา เป็นจังหวัดสุดท้าย ณ เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี-อุบลราชธานี

เสรีไทยในอุบลราชธานี มีผู้นำคือ สส.ทองอินทร์ ภูริพัฒน์ พันธมิตรในสภาผู้แทนราษฎรของ ครูเตียง ศิริขันธ์ สส. สกลนคร ผู้นำเสรีไทยสายอีสาน ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ เหมือนกัน สส.ทองอินทร์ เคยเป็นครูโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ ต่อมาได้เลื่อนเป็นครูใหญ่ โดยดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๖๘ – ๒๔๗๗ ในปีพ.ศ. ๒๔๘๓ ครูทองอินทร์ โอนไปรับ ราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังจากนั้นจึงลาออกจากราชการ มาสมัครเป็นผู้แทนราษฎรโดยได้เป็นผู้แทนราษฎรคนแรกของจังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๖ และชนะการเลือกตั้งทุกสมัยที่ลงสมัคร ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา สส.ทองอินทร์ นำกำลังครู-นักเรียนของโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช มาทำงานเพื่อชาติ

สส.ทองอินทร์ ตั้งค่ายฝึกเสรีไทย ในบ้านนาขาม อำเภอเมือง เป็นแห่งแรก นอกจากนี้ยังมี ค่ายเสรีไทยในโรงเรียน
โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช
สส.ทองอินทร์ ตั้งค่ายฝึกเสรีไทย ในบ้านนาขาม อำเภอเมือง เป็นแห่งแรก นอกจากนี้ยังมี ค่ายเสรีไทยในโรงเรียน
บ้านพนา อำเภอพนา ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัด อำนาจเจริญ ค่ายเสรีไทยในบ้านสวนงัว อำเภอม่วงสามสิบ
เสรีไทยสายอเมริกา ที่เข้ามาจังหวัดอุบลราชธานี คือ ร้อยเอกการุณ เก่งระดมยิง นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่ไป ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยไมอามี่
ร้อยเอกการุณ มีนามรหัสในเมืองไทยคือ บุญมา ณ บ้านขาม มีหน้าที่ติดต่อกับต่างประเทศ นัดหมาย วัน เวลารับอาวุธ จากเครื่องบินที่มาทิ้งร่มลงตามจุดกำหนดในตอนกลางคืน เพื่อนำธ อาวุไป ซุกซ่อนไว้ในสถานที่ต่าง ๆ ก่อนนำไปฝึกให้กับพลพรรคเสรี ไทยต่อไป

ปลายปี พ.ศ.๒๔๘๖ จนถึงต้นปีพ.ศ. ๒๔๘๗ มีการนำ กำลังคนจากที่ต่างๆมาฝึกเสรีไทยในอุบลราชธานี หน่วยเสรีไทยใน อุบลราชธานีมีพลพรรค ประมาณ ๕๐๐ คน สังกัด ๑ กองพัน ๔ กองร้อย มีการรวมพลครั้งใหญ่เป็นครั้งแรก ณ บ้านสวนวัว มีการรวม อำเภอม่วงสามสิบ ใช้โรงเรียนประชาบาลเป็นที่ตั้งกองบัญชาการ เสรีไทยส่วนใหญ่เป็นครูประชาบาล อาจารย์เทอด บุณยรัตพันธุ์ ซึ่ง ขณะนั้นเป็นครูอยู่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราชได้รับคำสั่งให้ไป ราชการพิเศษ ต่อมาจึงทราบความจริงว่า ให้มาฝึกเสรีไทย ฝึกการ ใช้อาวุธ การหาข่าวสาร การก่อวินาศกรรม อาจารย์เทอด ได้รับ มอบให้เป็นนายทะเบียนอาวุธของกองร้อยที่ ๒
ครั้งหนึ่ง ทหารญี่ปุ่นมาพบค่ายโดยบังเอิญในตอนเช้ามีดของต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๗ ก่อให้เกิดความโกลาหล วุ่นวาย ครูเทอด บุณยรัตพันธุ์ จึงพยายามควบคุมให้พลพรรคอยู่ใน ความสงบและเตรียมอาวุธพร้อม ครูทองอิน วีสเพ็ญ เข้าไปสอบถามทหารญี่ปุ่น ได้ความว่าเป็นทหารม้าที่บังเอิญเดินผ่านมาเพื่อตามหา ม้าที่หายไป ก่อนจะไปพักที่บ้านสร้างมิ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากค่ายเสรีไทย ออกไปราว ๒ กิโลเมตร

ร้อยเอกการุณ เก่งระดมยิง หัวหน้าค่าย จึงสั่งให้สลายพลพรรค โดยให้นำอาวุธทั้งหมดขึ้นไปรวมไว้บนโรงเรียนแล้ว จัดการวางสายระเบิดรอบค่าย จากนั้น ท่านพร้อมพลพรรคอีก ๔ คน นำปืนกลเบาเบรนไปตั้งรับบริเวณชายหมู่บ้านสร้างมิ่ง (ตำบล หนองเมือง อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี)
การเกิดอุบัติเหตุระหว่างการฝึกเสรีไทย เนื่องจากการฝึกอาวุธให้พลพรรคเสรีไทยดำเนินไป ด้วยความเร่งรีบ ครูฝึกเป็นครู ไม่มีความชำนาญ ด้านการใช้อาวุธ เพราะไม่ใช่ทหารอาชีพ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ ใน ค่ายฝึกเสรีไทยในบ้านพนา อำเภอพนา จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดอำนาจเจริญ)
ครูโรงเรียนพนาคือนายกุศล เงินหมื่น และ นายสวัสดิ์ เงินหมื่น เป็นฝ่ายประสานงานทำหน้าที่ครูฝึก เสรีไทย ได้มีนักเรียนโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราชซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดอุบลราชธานี
(ซึ่งในสมัยนั้นเป็นโรงเรียนชายล้วน) ส่วนใหญ่ สมัครใจเข้ารับการ ฝึกอาวุธกับสมาชิกขบวนการเสรีไทย
ประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๔๘๗ มีการรวมพล พรรค ครั้งใหญ่ ในค่ายโรงเรียนบ้านพนา มีการจัดเวรยาม ตั้งป้อม ปืนรัดกุม ขณะนั้นหัวหน้าค่ายไม่อยู่เพราะได้รับคำสั่งให้เข้า กรุงเทพฯ
หลังจากร่วมฝึก กันไม่ถึงอาทิตย์เกิดเหตุการณ์น่าสลด ใจ นายปราโมทย์ ศิริกุลได้เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า
ขณะเกิดเหตุ ตนเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จากโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ไม่ได้เรียนต่อมัธยมศึกษาตอน ปลาย เนื่องจากโรงเรียนหยุดสอนเพราะสงคราม นายปราโมทย์ เป็นยุวชนทหาร ถูกครูชักชวนให้ไปเที่ยวไปกินข้าวป่า จึงพากันไป ที่ วไปกินข้าวป่า บ้านพนา ก่อนจะทราบว่า ครูพามาฝึกเป็นเสรีไทย ต้องตกกระได พลอยโจนเพราะกลับบ้านไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุ อันน่าสลดใจ เป็น ชั่วโมงสอนการใช้ปืนกลมือจอห์นสัน ปืนกลจอห์นสัน ซึ่งเป็นปืน ส่องวิถี หากยิงกลางคืนจะเห็นวิถีปืนเหมาะสำหรับยิงเครื่องบิน
ครูเล็ก ขัมภรัตน์ ครูฝึกนำปืนกลมือจอห์นสันไป ฝึกสอนพลพรรค ๓๐ คน บริเวณใต้ถุนโรงเรียน ขณะที่หลายคน กำลังตั้งใจฟังรายงานจากหน่วยข่าว พลันได้ยินเสียงปืนกลดังสนั่น หวั่นไหวมาจากจุดสาธิตการใช้อาวุธ เสียงของปืนกลดังเป็นชุดจน ผิดสังเกต
เมื่อไปดูที่เกิดเหตุ พบครูเล็ก ขัมภรัตน์ กำลังยืนตะลึง ปืนวางอยู่บนพื้นดินข้างล่าง พลพรรคแตกฮือวิ่งหนีกันวุ่นวาย สอบถามได้ความว่าครูเล็ก นำซองกระสุนหรือแม็กกาซีน ใส่ในปืน แล้วขึ้นลำกล้องไว้ จากนั้น วางปืนไว้บนโต๊ะ โดยหันปากกระบอก ปืนไปทางที่ไม่มีคน จู่ๆปืนเกิดลั่นขึ้น ทำให้ปากกระบอกปืนส่ายไป ในทิศทางต่างๆ กระสุนในแม็กกาซีน ๒๕ นัด ยิงรวดเดียวหมด อาจ เป็นว่า ผู้ทำความสะอาดปืน ได้ถอดชิ้นส่วนออกแล้วประกอบ ชิ้นส่วนไม่สนิท
อุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ๔ คน บาดเจ็บสาหัส ๕ คน ไม่สาหัส ๕ คน ต่อมาผู้บาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตอีก ๔ คน รวมมีผู้เสียชีวิต ๘ คน โดยผู้ตายเป็นครู ประชาบาล ๔ คน นักเรียน ๔ คน หัวหน้าหน่วย จึงสั่งให้สลายค่าย แล้วขนอาวุธบรรทุกบนเกวียน ๑๒ เล่ม ลำเลียงจากบ้านพนาไปยัง อำเภอตระการพืชผล.จังหวัดอุบลราชธานี.
ขอบคุณข้อมูล : โสมชยา ชนังกุล..เสรีไทยหลงยุค กระทรวงวัฒนธรรม,2565
ปัญญา แพงเหล่า/รายงาน
18 พ.ย.2567