ข่าวด่วน
Tue. Jul 1st, 2025

14 ธ.ค.66 ผู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์ ในอำเภอเขื่องใน นำนักเรียนมาเรียนรู้ศาสตร์พระราชา ด้านการอนุรักษ์ดิน น้ำ ป่า การพัฒนา การบริหาร และเศรษฐกิจพอเพียง ณ วัดป่ามหาธีราจารย์ (ปสฤทธ เขมงฺกรมหาเถร) ป่าดงใหญ่วังอ้อ ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำไปเขียนเป็นตำราลงบนแผ่นดินที่โรงเรียน ในเขตพื้นที่อำเภอเขื่องใน

วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม 2566 โรงเรียนบ้านวังอ้อ(ยอดสังข์วิทยา) นำโดย ดร.บุญฟ้า ลิ้มวัธนา คณะครูและนักเรียนทุกคน พร้อมภาคีเครื่อข่ายสถานศึกษา ผู้บริหาร คณะครู,นักเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านชีทวน ,โรงเรียนบ้านทัน,โรงเรียนบ้านขามป้อม และโรงเรียนบ้านบุตร ได้เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ” ของอำเภอเขื่องใน ร่วมกับบริษัทคูโบต้าเจริญชัย

เพื่อพัฒนาครู นักเรียน ภายใต้โครงการขยายผลต่อยอดโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ณ วัดป่ามหาธีราจารย์ โดยมีพระพิพัฒน์ชิโรภาส เจ้าอาวาสวัดป่ามหาธิราจารย์/ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในพิธีเปิด จากนั้นได้ กล่าวสัมโมทนียคาถา พร้อมบรรยายให้ความรู้เรื่อง ศาสตร์พระราชา

พระพิพัฒน์ชิโรภาส เจ้าอาวาสวัดป่ามหาธิราจารย์/ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทยบรรยายหัวข้อ ระเบิด 4 ลูก คิดหาเหตุ หาผล ทำไมเราต้องทำ

ในการอบรมในครั้งนี้ และมีทีมจิตอาสาชาววัง เป็นวิทยากร ให้ความรู้ฐานการเรียน 4 ฐาน ดังนี้

ฐานที่ 1 คนรักษ์สุขภาพ

ฐานที่ 2 นวัตกรรมเกษตรเพื่ออนาคต

ฐานที่ 3 คนรักษ์แม่ธรณี

ฐานที่ 4 คนรักษ์ป่า

เพื่อให้ครูและนักเรียนได้นำความรู้ไปดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าและฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนต่อไป

คำบรรยายจากเฟสบุ๊คแฟนเพจ เจ้าคุณ โคก หนอง นา

ด้วยความมีเหตุผลความตระหนักรู้ในสิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศแปรปรวน ภัยพิบัติโลกร้อน ลมพายุ แผ่นดินไหว การเมือง เรื่องของผลประโยชน์ ความขัดแย้ง แย่งชิง นำสู่ สงครามกลางเมือง ปัญหาสังคม สุขภาพโรคระบาดเชื้อโรคชนิดใหม่ๆ วิกฤตเศรษฐกิจ เศรษฐกิจตาโต น้ำมัน/อาหาร อันนำมาซึ่งความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ของคน หมู่บ้าน ชุมชน สังคม ประเทศ

อีกทั้งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้โรงเรียนขนาดเล็ก-ที่ค่าอาหารกลางวันมีไม่เพียงพอ เสี่ยงต่อเด็กขาดสารอาหาร /เสี่ยงต่อผู้ปกครองนำลูก หลาน ไปเรียนที่อื่น /เสี่ยงต่อการถูกยุบหรือควบรวม แล้วไปเรียนรวมกับโรงเรียนอื่นที่ใหญ่กว่า /เป็นปัญหากับการเดินทาง ความปลอดภัย /เป็นปัญหาวิถีชีวิตประจำวันของครู นักเรียน ผู้ปกครอง และพื้นที่โรงเรียนที่ถูกยุบหรือควบรวมจะมีสภาพรกร้าง

เด็กนักเรียนกำลังเรียนรู้ประโยชน์จากหน่อกล้วยโดยจิตอาสาชาววัง

การดำเนินงานทำด้วยความพอเพียง-ไม่หนักเกินแรง ครู นักเรียน คนในชุมชน ไม่กระทบกับการเรียน การสอน แต่สามารถประยุกต์เข้ากับกลุ่มสาระ การเรียน การสอน ที่รัฐกำหนดได้ สามารถบูรณาการกิจกรรม กับหน่วยของ ภาคี เครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคสื่อสารมวลชน ได้โดยไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่

ทำโดยมีความรู้และคุณธรรมเป็นฐาน-ผู้บริหาร ครู นักเรียน และภาคีเครือข่าย มีความรู้ มีศรัทธา ใจรัก เสียสละ อุทิศตน ทำเพื่อสุขภาพที่ดีของตน ของนักเรียน ของชุมชน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก เพราะฉะนั้น ทั้งผู้บริหาร ครู อาจารย์ นักเรียน และภาคีเครือข่ายต้องมีคุณธรรม ฉันทะ-ความพอใจ ,วิริยะ-ความเพียร – ขันติ-ความอดทน,ซื่อสัตย์-ไม่ใช้สารเคมี,สามัคคี-ร่วมคิด ร่วมทำ ,น้ำใจ-แบ่งปัน ,กตัญญูกตเวที-นำผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์ของตน ไปให้พ่อ แม่ ผู้มีคุณ และกตัญญูต่อสถานที่ สำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิด

การจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับศาสตร์พระราชา รวมทั้งสอดคล้องกับบริบท วิถีวัฒนธรรมชุมชน และคุณธรรม เช่น กิจกรรมถนนสายวัฒนธรรม นำข้าวสาร อาหารแห้ง สมทบทุนอาหารกลางวัน /กิจกรรมพิธีกรน้อยคอยบอกบุญ /กิจกรรม/กิจกรรมเอาแฮงสามัคคี ดำนา เกี่ยวข้าว นวดข้าว /กิจกรรมบุญลอมข้าว /กิจกรรมปลูกป่า 3 อย่าง /กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายสถานศึกษา/กิจกรรมมัคคุเทศก์ธรรม นำสู่การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา (เป็นวิทยากรกระบวนการ เป็นครูน้อยอาสาประจำวิชา เป็นครูน้อยอาสาพาทำ และให้เป็นพี่สอนน้อง ในรุ่นต่อๆไป

นักเรียนในภาคีเครือข่าย อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เข้าร่วมกิจกรรม

มีวิธีการตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบรศมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 คือการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา

เข้าใจ-เข้าใจบริบทภูมิ สังคม ในโรงเรียน ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี สภาพแวดล้อม ดิน น้ำ ป่า คน และข้อมูลชุมชน

เข้าถึง- การระเบิดจากข้างใน คือเกิดจากภายในใจตนเอง (มีฉันทะ) ความชอบ ความพอใจ มั่นใจอยากทำ รวมทั้งเข้าถึงทุกข์ของตน ของคนในชุมชน และเข้าถึงบุคคลที่เป็นทุนทางสังคมในชุมชน อาทิ พระ ครู คลัง ช่าง หมอ พ่อแม่ เยาวชน เอกชน คนของรัฐ ที่ต้องเชื้อเชิญมาพบปะ พูดคุย จัดเวทีสะท้อนความงามในอดีต ชี้สภาพวิกฤตปัญหาในปัจจุบัน ร่วมกันฝันถึงอนาคต หรือ เวที ชี้ให้เห็นทุกข์ ปลุกให้สู้ มองดูอนาคต เชิญภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ให้มีส่วนร่วมในแผนงาน โครงการ กิจกรรมตั้งแต่เริ่มต้น

พัฒนา-พัฒนาตน ให้มีคุณธรรม เมตตา กรุณา มีความรู้ ความสามารถ เสียสละ อุทิศตนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

พัฒนาคน(ทีมงาน)- คือ ครู นักเรียน ปราชญ์ ชาวบ้าน ภาคีเครือข่าย ให้เป็นครูกระบวนการ ครูประจำวิชา ครูพาทำ สามารถให้การศึกษา เรียนรู้ แก่ผู้อื่นได้ดี จากรุ่นสู่รุ่น

พัฒนาพื้นที่ -ตามบริบทภูมิสังคม หรือ ตามทุนทางธรรมชาติของพื้นที่ ที่มีอยู่ มีการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่เพิ่มเติมเป็น โคก หนอง นา ,เป็นคลังยา คล้งอาหาร ,เป็นอสวนครัวพอเพียง ,เป็นแหล่งอาหารเพื่อน้อง

เป้าหมาย คือ การพัฒนาสู่ยั่งยืน อันได้แก่-ชีวิตที่มีความสุข สงบ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ทั้งด้านสุขภาพใจ-คือใจมีคุณธรรม

ด้านสุขภาพกาย-คือมีสุขภาพแข็งแรง มีอาหารที่ดี มีประโยชน์

ด้านที่อยู่อาศัย-หมายถึงโรงเรียนยังสามารถดำรงสถานะอยู่ได้ ไม่ถูกยุบรวม หรือถ้ายุบรวมจริงๆพื้นที่โรงเรียนก็จะเป็นคลังยา คลังอาหาร ของชุมชนต่อไป โดยไม่ถูกทิ้งร้าง

ด้านการศึกษา- ผู้ปกครองมีความมั่นใจในการส่งลูก หลาน เข้ามาเรียน มีฐานเรียนรู้สู่การบูรณาการ

ด้านสัมมาชีพ- นักเรียน คนในชุมชน และภาคีเครือข่าย มีสัมมาชีพที่สุจริต พึ่งตนเองได้ในเบื้องต้น คือมีพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น

ด้านรายได้-โรงเรียน นักเรียน มีรายได้เสริมจากการจำหน่ายผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์

ที่มา เจ้าคุณ โคก หนอง นา (ภาพ/ข่าว)

Related Post