ผู้ว่าฯอุบลฯฟันธง! หากไม่มีพายุเข้า ปีนี้น้ำไม่ท่วมเท่าปี 62 เชื่อโครงการลัดน้ำชี,มูล ป้องกันน้ำท่วมอุบลฯได้ ชี้ต้องเร่งศึกษาการระบายน้ำลัดแก่งสะพือ เพื่อเร่งระบายลงโขง จะประสาน สทนช.คาดการณ์ระดับน้ำให้แม่นยำ
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 UbonConnect เปิดวงคุยออนไลน์กับนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจ.อุบลราชธานี และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยนำคำถามจากประชาชนมาสอบถาม เผยแพร่ออนไลน์ทาง เพจ facebook อยู่ดีมีแฮง , วารินชำราบบ้านเฮา , UbonConnect , VR CABLETV และ สำนักงานประชาสัมพันธ์จ.อุบลราชธานี
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจ.อุบลราชธานีได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการลดน้ำก่อนฝนมาว่า ได้ดำเนินการตั้งแต่ 28 มิถุนายน 2567 ซึ่งขณะนั้นน้ำยังไม่มาก สามารถปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้ 100% แต่เรามีเขื่อนธรรมชาติ ก็คือที่ แก่งสะพือ ปล่อยไปเต็มที่ก็จะไปติดอยู่ตรงนี้ มีรอยต่อรอยห่างเป็น 10 เมตร จะไหลช้า มีการปรึกษาหารือหลายฝ่าย บางคนก็ว่าควรผันน้ำไม่ให้น้ำผ่านแก่งสะพือ ควรทำประตูน้ำในด้านฝั่งตรงข้ามเมืองพิบูลฯ กว้างร้อยเมตร ยาวร้อยเมตร ลึกไม่เกินสิบเมตร หน้าแล้งก็ปิดประตู ก็คงต้องศึกษาและออกแบบกันต่อไปโดยจะให้ผู้เกี่ยวข้องมาคุยกัน คาดว่าเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารน่าจะเป็นเจ้าภาพ ส่วนนี้เป็นจุดที่ทำให้น้ำไหลลงแม่น้ำโขงช้ามาก
ส่วนการลดระดับน้ำก่อนฝนมาที่ M7 เชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย ลดเต็มที่ได้ 106.5 ม.รทก. ต่ำกว่านี้จะมีปัญหาเรื่องการผลิตน้ำประปา แต่จุดสำคัญอยู่ที่ปลายน้ำก่อนลงเขื่อนอย่างที่แจ้ง ควรไปแก้ปัญหาที่นั่น
(ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหาพื้นที่ของการประปาเพื่อหาจุดสูบน้ำที่ทำให้สามารถลดระดับลงได้อีก ค่อนข้างมีปัญหาพื้นที่กุดปลาข่อ ตรวจสอบระวางที่ดิน โดยที่ดินจังหวัด ไม่มีพื้นที่สาธารณะ หรือที่ราชพัสดุเลย ยกเว้นพื้นที่ที่เป็นตัวดูด จึงไม่มีพื้นที่ก่อสร้าง มีการคุยนอกรอบว่าจะขอก่อสร้างริมถนนเลียบแม่น้ำมูล เป็นอาคารยื่นลงไปในน้ำ แบบเดียวกับ ของเทศบาลนครฯ ตรงตลาดใหญ่ งบประมาณคร่าวๆ ประมาณ 100 ล้านบาท อัตราการสูบน้ำที่ 1500 ลบ.เมตร ต่อ ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการ ไม่มีความคืบหน้าใดใด จุดนี้ผู้ว่าฯไม่ได้กล่าวในรายการ แต่ผู้ว่าฯไปเน้นจุดสำคัญที่แก่งสะพือ ผู้สื่อข่าวคาดว่า อาจจะมีปัญหาอีกมาก หากจะขอก่อสร้างริมถนนเลียบแม่น้ำมูล การเร่งลดระดับน้ำจุดอื่นน่าจะทำได้รวดเร็วกว่า งบประมาณน้อยกว่า ปัญหาน้อยกว่าก็ได้)
ส่วนการคาดการณ์ระดับน้ำท่วมของศูนย์ส่วนหน้า ที่คาดเคลื่อนในปี 2565 ประกาศว่าน้ำจะสูงไม่เกินปี 2562 คือ 10.97 ม. หรือ 5,265 ลบ.ม./วินาที กลับสูงถึง 11.51 ม. หรือ 5,745 ลบ.ม./วินาที คลาดเคลื่อน 54 ซม. ประมาณฟุตกว่า ผู้ว่าฯรับปากว่าจะประสานศูนย์ส่วนหน้าเพื่อขอทราบความชัดเจนในเรื่องนี้
นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.อุบลฯ ได้กล่าวถึงการเตรียมการป้องกัน ได้ดำเนินการ โดยทำพนังกั้นน้ำ 2 จุด จุดแรกที่ท่ากอไผ่ซึ่งเป็นการ เตรียมการรับจุดเปราะบางของพนังกั้นน้ำที่ทางโยธาฯได้ทำไว้ ได้ทำทำนบชั่วคราวยาว 70 เมตร ระดับป้องกันได้ 350 ครัวเรือน ทางโยธาฯ ได้ประสานมาว่าจะทำอย่างถาวรต่อไป
ชุดที่สอง ชุมชนวังแดง เมื่อก่อนระดับน้ำ 110.38 ม.รทก. ก็จะเข้าถึงชุมชนแล้ว ปัจจุบันได้เสริมทำนบดินระยะทาง 1,200 เมตร และพนัง คสล.อีก 100 เมตร ถึงปัจจุบันทำได้ 69% เพื่อลดปัญหา 3 ชุมชน 134 ครัวเรือน
ประเสริฐ ปุราถานัง ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำฝนสะสมปีนี้จะมากกว่า
สิงหาคม คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 400 มม. กันยายน 400 มม. ตั้งแต่ 1 มกราคมมาจนถึง 9 สิงหาคม ปริมาณน้ำฝนสะสมอยู่ที่ 1,165.6 มม. ถ้าเอามารวมกันจะประมาณ 1,890.7 มม. สูงกว่าค่าปกติ อยู่ประมาณ 266.7 มม. ยังไม่รวมพายุที่จะเข้ามา ปี 2565 ปริมาณฝนสะสมอยู่ที่ 2,450.5 มม. ปีนี้ปริมาณน้ำฝนไม่น่าจะถึงปี 65 ถ้าไม่มีพายุเข้า
ส่วนกรณีที่เรด้าห์อุบลราชธานีของ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ชำรุดตั้งแต่ปีที่แล้ว (2566) ต้องไปดูเรด้าห์ของ กรมฝนหลวง ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เกิดชำรุดอีก ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ชี้แจงมาว่า ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และลงนามในสัญญาแล้ว รอรับการจัดสรรงบงบประมาณจากกรมบัญชีกลาง เมื่อได้รับงบประมาณแล้ว จะเข้าดำเนินการภายใน 400 วัน ผู้ดำเนินรายการสอบถามว่า ระหว่างรอซ่อมในเวลาเป็นปี ผู้สื่อข่าวทราบมาว่าทางกองบิน 21 มีเรด้าห์ที่ใช้ดูสภาพอากาศ เฉพาะนายทหารระดับสูง จะขออนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ด้วยชั่วคราวในช่วงที่รอดำเนินการซ่อมเรด้าห์ของกรมอุตุฯ จะได้หรือไม่
ทางนาวาอากาศโทหญิงปฏิมา สิมเสมอ เลขาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน21 ได้ตอบว่า ทางกองทัพอากาศยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าจะได้ให้ความช่วยเหลือประชาชน เรดาร์ของทางกองบินมีจริง แต่ใช้สำหรับภารกิจทางการทหาร และภารกิจของการป้องกันประเทศ มีการจำกัดช่วงเวลาในการดู ต้องขออนุญาตสอบถามรายละเอียดข้อมูลทางเทคนิคก่อน เพื่อนำเรียนผู้บังคับบัญชา จะสามารถใช้ได้เรียงไทม์จริงหรือเปล่า เพราะเดิมทีใช้เจ้าหน้าที่นั่งเฝ้าคอยดูสภาพอากาศในห้วงเวลาที่มีเครื่องบินขึ้นลงเท่านั้น
ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้กล่าวเสริมว่า หากกรณีฉุกเฉิน มีพายุเข้า ทางกรมฯสามารถอนุมัติให้ทาง ศูนย์อุตุฯสกลนครฯ ขยายสัญญาณเรด้าห์ 480 กิโลเมตร มาถึงจังหวัดอุบลฯได้ แต่ที่ไม่สามารถทำได้ต้องแต่ตอนนี้เพราะ เมื่อเครื่องใช้ตลอดเวลา งานหนักอาจทำให้ชำรุดได้เร็ว จึงจะขอได้เฉพาะในช่วงฉุกเฉิน
1.Mr:We : ถามว่าอุบลฯมีการประสานงานกับจังหวัดต้นน้ำ อย่างไรบ้าง เวลาที่เราขอให้ กักน้ำ หรือเก็บน้ำ ชลอไว้ จังหวัดเหล่านั้น ทำได้ตามที่เราต้องการไหม ?
ผู้ว่าฯชี้แจงว่า เราทีคณะกรรมการจัดการลุ่มแม่น้ำชี แม่น้ำมูล ที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว และบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผอ.โครงการชลประทาน จ.อุบลฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ลุ่มแม่น้ำชี อยู่ในเขตของสำนักงานชลประทานที่ 6 ลำน้ำมูลตอนต้นจะอยู่ในความดูแลของ สำนักงานชลประทานที่ 8 โคราช ทั้งสองลุ่มน้ำนี้ จะมีศูนย์กลางอยู่ที่กรมชลประทาน บริหารน้ำ วิเคราะห์สั่งการอยู่ที่นั่น มีการประชุมทุกสัปดาห์
ขณะนี้ทางกรมฯได้สั่งการให้พร่องน้ำระบายน้ำมาเดือนเศษ ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม เพื่อจะมีช่องว่างในการรับน้ำ ของตอนบน อุบลฯยังสามารถระบายน้ำได้เป็นอย่างดี จึงให้พร่องน้ำลดลงมา สายมูลก็เช่นกัน ปัจจุบันสายมูลได้ลดระดับลงแล้ว ราษีไศลก็ได้ลดบานลง ทางหัวนาก็ยังแขวนบานอยู่ ระดับน้ำในสายมูลได้ลดลง ในสายชี ขอนแก่น มหาสารคาม ก็ลดระดับลงตามลำดับ ปัจจุบันเราสามารถที่จะรับน้ำทั้งตอนบน และของเราได้อีกเกือบ 2 เมตร การประสานงานกับโครงการต่าง ๆ รวมทั้งทางจังหวัด เป็นไปได้อย่างดี
2.ผช.ทวี กิ่งแก้ว : ถามถึงเรื่องความเสียหายของนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมเสียหายเมือนตอนกลางเดือนกรกฎาคม ซึ่งตอนนี้ได้ทำเรื่องส่งสำนักงานเกษตรเป็นที่เรียบร้อย อยากทราบว่าการช่วยเหลือปีนี้จะช่วย อย่างไร ชดเชยเป็นเงินไร่ล่ะ หรือสิ่งของ และจะถึงมือประชาชนเดือนใหน
นายถิรพุทธิ์ คานทอง เกษตร จ.อุบลราชธานี ตอบคำถามว่า ขั้นตอนการทำงานของทางเกษตรคือ ก่อนเกิดภัย ได้ประกาศให้เกษตรกรขึ้นทะเบียน ระหว่างเกิดภัยให้มีคณะทำงานระดับพื้นที่สำรวจ แล้วส่งไปทางอำเภอ อำเภอส่งจังหวัด เมื่อจังหวัดประกาศภัย ก็จะผ่านคณะกรรมการ ชพอ.ระดับอำเภอ ส่งมาที่จังหวัด พอได้เงินเรียบร้อยแล้ว หลังเกิดภัย ช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลด อาจจะมีโรคพืชโรคแมลง หรือพืชพันธ์ุผักอายุสั้น
การช่วยเหลือจะมีระเบียบมีหลักเกณฑ์อยู่ 2-3 ฉบับ ตามคำถามจะช่วยเหลือเป็นเงินสด ถ้าเป็นข้าวไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่พืชผักไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้นและพืชอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท หลังเกษตรกรยื่นเรื่องก็ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
3.กุลชา : ถ้าปล่อยให้น้ำท่วมบ้านเรื่องประชาชนเสียหาย อย่าประเมินแค่วัสดุเสียหายเท่านั้น ให้บวกค่าจ้างช่างให้ด้วย เพราะซ่อมเองไม่เป็น ว่าที่รต.มนต์สง่า ลีลาศสง่างาม ปภ.จ.อุบล ชี้แจงว่า ในระเบียบหลักเกณฑ์เป็นการให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้างบฉุกเฉินให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ ในระเบียบไม่ได้เขียนไว้ให้ชดใช้แต่เป็นเพียงบรรเทาความเดือดร้อน จากประเด็นคำถามของคุณกุลชา ไม่เข้าหลักเกณฑ์ แต่เราก็จะพยายามขับเคลื่อนเพื่อปรับแก้ระเบียบหลักเกณฑ์ต่าง ๆ อยู่ไม่ได้นิ่งดูดาย
4.RS : 1.การเบี่ยงสายน้ำชี ลงแม่น้ำโขง ก่อนถึงอุบล กับ การบายพาส แม่น้ำมูลจากเขื่อนหัวนาถึงท้ายแก่งสะพือ อย่างไหนที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ดีกว่ากัน
นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.อุบลฯ ตอบคำถามว่า มีความสำคัญทั้ง 2 สาย ปัจจุบันมีการศึกษาในสายมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ที่ระยะทาง 96 กิโลเมตร เริ่มจากทางท้ายเขื่อนหัวนา ไปลงที่ท้ายแก่งสะพือ อยู่ระหว่างการสำรวจและออกแบบเพื่อการก่อสร้าง ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 7 ปี ค่าก่อสร้างอยู่ที่ 44,000 ล้านบาทเศษ ไม่รวมค่าชดเชยที่ดิน
ส่วนสายชี ศึกษาโดยทาง สทนช.จากจ.ยโสธร อำนาจเจริญ เซบาบ เซบก ห้วยตุงลุง มาลงที่ท้ายเขื่อนปากมูล ระยะทาง 180 กิโลเมตร ประเมินค่าก่อสร้างเบื้องต้นไว้ 7 หมื่น 2 พันล้าน ไม่รวมค่าชดเชยที่ดิน แผนก่อสร้าง 6 ปี
ทั้ง 2 สายสามารถระบายน้ำได้ประมาณ 2,200 ลบ.ม./วินาที
ไม่ได้เปรียบเทียบว่าเส้นทางไหนจะแก้น้ำท่วมได้ดีกว่ากัน แต่ปี 62 และ 65 ปริมาณน้ำที่มาที่เชิงสะพานเสรีฯ 6 พันกว่า ลบ.ม./วินาที การระบายน้ำต้องให้ครอบคลุม
ผู้ว่าฯศุภศิษย์เสริมว่า แนวทางแก้ปัญหาที่รัฐบาลสำรวจออกแบบ ตนคิดว่าสามารถแก้ปัญหาได้เกือบ 100% ต้องทำทั้ง 2 เส้นทาง ทั้งแม่น้ำชี และแม่น้ำมูล ส่วนของแก่งสะพือก็แก้ปัญหาได้ชั่วคราวเท่านั้น
2. การแก้ปัญหาน้ำท่วมอุบล ถ้าดูตามรูปสายน้ำมูล จะมีโขดหรือแก่ง อยู่ 2 แห่ง ที่เป็นเขื่อนธรรมชาติทำให้น้ำไกลไม่สะดวก คือ แก่งไฮ และ แก่งสะพือ ทางจังหวัดมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนแก่งทั้งสองให้ผสมกันระหว่างแก่งธรรมชาติครึ่งหนึ่งและเขื่อนครึ่งหนึ่ง เพื่อสามารถเปิดประตูเขื่อนดังกล่าวให้ระบายน้ำได้สะดวกในฤดูน้ำหลากหรือไม่
คำถามนี้ทางผู้ว่าฯได้แจ้งไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่าจะหารือผู้เกี่ยวข้องทำประตูเปิดปิดน้ำ
5.สุรัตน์ : ปัญหาโจร ขโมยทรัพย์สิน ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ที่มักจะมาช่วงเวลาน้ำท่วมบ้านของพี่น้องประชาชน ซ้ำเติมความเดือดร้อนครับ ว่าได้วางแผนหรือมาตรการในการป้องกันเหตุดังกล่าวเบื้องต้นไว้แล้วหรือไม่ อย่างไร
แล้วสามารถที่จะชี้แจงเพื่อความเชื่อมั่น ให้ความ สบายใจ ในระบบรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินของพี่น้อง ประชาชนที่ได้ ประสบอุทกภัย และอาจจะถูกซ้ำเติมจากโจรขโมยต่างๆ ที่จะใช้ช่วงเวลาดังกล่าว ซ้ำเติมความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องประชาชนครับ
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีกล่าวว่า จะมีหน่วยทหาร หน่วยตำรวจ อปพร.และท้องถิ่น ที่ร่วมกัน มีเรือลาดตระเวน มีเวรยามรักษาผลัดเปลี่ยนในกลุ่มต่าง ๆ อาจจะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่จะเพิ่มความถี่ในการตรวจตราให้มากขึ้นได้
6.วรรณ : ข้อเสนอจากแนวทางแก้ไขปัญหา ทั้ง 4 เวที จัดโดย สภาพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้าที่องค์กรเครือข่ายร่วมระดม มาทุกๆปีที่มีน้ำท่วม เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จะถูกนำไปใช้ได้ประโยชน์ หรือไม่? มีวิธีการแนวทางอย่างไรบ้างคะ?
ทางปภ.จังหวัดชี้แจงว่า ได้มีการดำเนินการ เช่น การยกระดับถนน การเร่งพร่องน้ำ ทางจังหวัดจะได้ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คิดว่าทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ ท่านผู้ว่าฯจะได้สั่งการให้ขับเคลื่อนต่อไป
ผู้ว่าฯกล่าวเสริมว่า ที่เห็นเป็นรูปธรรมเช่น ทางยกระดับทางไปวารินฯฝั่งหนองบัวเทิง เจริญศรี แยกคำน้ำแซ่บ ก็ได้งบประมาณมาแล้ว ข้อเสนอในเวทีต่าง ๆ ก็เริ่มเห็นผล
7.ต้น : ตลิ่งที่เลยบ้านหาดสวนยาพังมาหลายปีแล้ว นี่ก็ทำให้น้ำทะลักเข้าไปถึงชุมชนได้ง่ายดายและท่วมสูงทุกครั้ง จะมีงบประมาณซ่อมมั๊ย ซ่อมเมื่อไหร่
ปภ.จังหวัดตอบคำถามว่า จากการประสานงานของโยธาธิการจังหวัด แจ้งว่าได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว ได้ผู้รับจ้างแล้ว เมื่อระดับน้ำลด ก็จะลงระบบการซ่อมแซมต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดชี้แจงเพิ่มเติมว่า ต้องเรียนว่างบประมาณปี 67 มาช้า จริง ๆ ถ้ามาตามปกติตั้งแต่ตุลา 66 คงจะได้ดำเนินการไปแล้ว งบปี 69 ทางจังหวัดกำลังทำอยู่เพื่อให้ทันใช้ 1 ตุลา 68 ช้าจะข้ามไปถึง 2 ปี การของบไม่ใช่ขอวันนี้ได้พรุ่งนี้ จึงทำให้การแก้ปัญหาล่าช้า เป็นที่ระบบงบประมาณให้รวดเร็วกว่านี้ ทางสำนักงบประมาณต้องดำเนินการแก้ไข
8.ติ๊ก : ท่าน ผวจ. มีการประสานงานกับ นักการเมืองท้องถิ่น มากน้อยเพียงใด และ นกม. ท้องถิ่นมีส่วนร่วมแค่ไหน? ที่ผ่านมา ทุกการประชุม ไม่มี นกม. มาร่วมด้วนเลย การทำงานจึงดูเหมือนเป็นทำจากบนลง ล่างอย่างเดียว มีเพียง ปชช องค์กรอิสระ และหน่วยงานรัฐ เท่านั้น ผู้แทนปากเสียงของ ปชช. ทำอะไรบ้าง? ที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่โผล่มาเพียงตอนน้ำท่วม
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ได้ตอบคำถามนี้ว่า ท้องถิ่นมีตัวแทนอยู่ในคณะกรรมการแก้ปัญหาอยู่แล้ว ส่วนสส.คงต้องให้ทางท้องถิ่นประสาน เพราะว่าท่านอยู่ที่สภาฯ ไม่ได้อยู่ที่จังหวัด ท่านก็จะเอาข้อมูลมาให้กับทางจังหวัด ผนวกกับข้อมูลท้องถิ่น ยืนยันว่าได้ทำงานร่วมกันทั้งระดับภูมิภาค ท้องถิ่น และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
9.มิว : บ้านที่น้ำท่วมบ่อยๆหรืออยู่ในพื้นที่น้ำท่วมบ่อย ถ้าเป็นบ้านหลังที่ 2 ยังจะต้องเสียภาษีบ้านหลังที่ 2 อยู่อีกหรือ ควรจะมีข้อยกเว้นไหม
ทางปภ.จังหวัดฯ ตอบว่า คงต้องถามทางที่ดิน หรือทางสรรพากร ขอรับไปสอบถามต่อ ความจริงมีกฎหมายระบุว่าถ้าน้ำท่วมไม่ต้องจ่ายภาษี
ต่อข้อถามของนายนิกร วีสเพ็ญว่า จะมีการสร้างเขื่อนภูงอย ห่างจากจำปาสัก 15 กิโลเมตร จะดันน้ำแก่งตะนะ สูงขึ้นราว 5 เมตร ปัญหาคือน้ำมูลมหาศาลจะไหลลงโขงอย่างไร น้ำจะไม่ท่วมอุบลอย่างยาวนานหรือ เพราะน้ำไหลลงโขงไม่ได้ ปัญหาน้ำท่วมเมืองอุบลฯจะไม่หนักกว่าเดิมหรือ
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ตอบว่า เราไม่เห็นด้วย แต่ละฝ่ายเห็นว่ามีผลกระทบ ตนก็ตกใจเหมือนกัน แม่น้ำโขงต้องดันขึ้นมา สมมติว่าน้ำเคยห่างจากตลิ่ง 8 เมตร ถ้ามีเขื่อนก็เหลือ 4 เมตร การบริหารจัดน้ำจะเป็นสิ่งที่ลำบากมาก
สนับสนุน UbonConnect สื่อสาธารณะท้องถิ่น ได้ที่บัญชี : สุชัย เจริญมุขยนันท ธ.กสิกรไทย 077-1-14983-9 ขอบคุณครับ