อ่านให้ฟัง โดย สุชัย Ai จาก botnoi
ม.อุบลฯ เตรียมออกนอกระบบ เตรียมร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สาระสำคัญ:
- ที่มาโครงการ: ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (พ.ร.บ. ม.อุบลฯ) ถูกเสนอโดยคณะรัฐมนตรีและมีการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เคยถูกเลื่อนออกไปในยุครัฐบาลก่อน
- กิจกรรมสำคัญ: เมื่อวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2567 คณะกรรมาธิการฯ เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยอุบลฯ เพื่อศึกษาความพร้อมและหารือวิสัยทัศน์ภายใต้การพัฒนาแบบใหม่
- สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.: เป้าหมายคือเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัย สอดรับกับนโยบาย “มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ” ที่ต้องการให้มหาวิทยาลัยมีอิสระในการบริหารและวิชาการ
อุบลราชธานี – สมคิด เชื้อคง รองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีฯสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ UbonLive เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ถึงการพิจารณา พ.ร.บ.ม.อุบลฯว่า การขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (ม.อุบลฯ) สู่การเป็น “มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ” กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้จัดกิจกรรมเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2567 เพื่อหารือและรับฟังข้อเสนอแนะจากบุคลากรในมหาวิทยาลัยและประชาชนในพื้นที่
จากความพยายามสู่ความสำเร็จ
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเริ่มต้นในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ถูกเลื่อนออกไป และกลับมาถูกหยิบยกใหม่ในปีนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้เยี่ยมชมวิสัยทัศน์และพันธกิจของมหาวิทยาลัย เช่น การพัฒนางานวิจัยด้านเกษตรกรรมและเทคโนโลยี พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาคมเพื่อประเมินความพร้อมของมหาวิทยาลัยในการก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
ข้อดีที่ชัดเจนและความท้าทายที่ต้องเผชิญ
การเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณา:
- ข้อดี: มหาวิทยาลัยจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในด้านงบประมาณ การจัดการ และการพัฒนาวิจัย รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพในการตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในยุคที่การแข่งขันสูงขึ้น
- ข้อเสีย: มีความกังวลเรื่องค่าเล่าเรียนที่อาจเพิ่มขึ้น
ไทม์ไลน์การเปลี่ยนแปลง
ร่างพระราชบัญญัตินี้คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 6-12 เดือนในการพิจารณาและประกาศใช้ ซึ่งต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ความกังวลของชุมชนและข้อเสนอจากกรรมาธิการฯ
คณะกรรมาธิการฯ ได้เสนอแนะให้มหาวิทยาลัยเสริมการสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ รวมถึงพัฒนากิจกรรมที่มีส่วนร่วมกับชุมชน เช่น งานวิจัยที่ช่วยแก้ไขปัญหาท้องถิ่นและการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและประชาชน
ผลกระทบในระยะยาว
ในฐานะมหาวิทยาลัยสำคัญของภาคอีสานตอนล่าง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถูกคาดหวังว่าจะช่วยให้มหาวิทยาลัยอุบลฯ สามารถพัฒนาในด้านการวิจัยและนวัตกรรมได้อย่างก้าวกระโดด แต่ในขณะเดียวกัน การบริหารจัดการต้องโปร่งใสและตอบโจทย์ความต้องการของนักศึกษาและประชาชนในพื้นที่อย่างรอบด้าน
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ การเดินหน้าสู่ระบบใหม่จะเป็นโอกาสหรืออุปสรรค ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง.