งานศิลป์และวัฒนธรรมเมืองอุบลฯสร้างชื่อ ตัวแทนประเทศไทย ในงานเทศกาลหัตถกรรมนานาชาติ Surajkund International Crafts Mela 2025
คณะนักแสดงวัฒนธรรม ศิลปิน และช่างหัตถกรรม จากจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 21 ราย ประกอบด้วย วงสิงไค คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คณะช่างเทียนแห่งศูนย์การเรียนเทียนพรรษาศรีประดู่ กลุ่มผู้ประกอบการช่างศิลป์เขมราฐ-นาตาล กลุ่มทอผ้าไหมคุ้มจันทร์หอม ได้รับการคัดเลือกและการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ให้เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วม เทศกาลหัตถกรรมนานาชาติสุรัชกุนด์ ครั้งที่ 38 (Surajkund International Crafts Mela) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าหัตถกรรมที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เมือง Faridabad มีผู้แทนจาก 42 ประเทศเข้าร่วม ทั้งนี้งานศิลป์และวัฒนธรรมเมืองอุบลฯได้สร้างชื่อ สร้างความประทับใจ ให้กับผู้เข้าเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
โดยจุดเด่นสำคัญที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ได้แก่ วงสิงไค วงดนตรีอีสานประยุกต์ที่มาพร้อมกับความงดงามของการฟ้อนรำ สะท้อนเอกลักษณ์สำคัญของ “อุบลราชธานี ศรีศิลป์”เพื่อสร้างการรับรู้วัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของภาคอีสาน นอกจากนี้ คณะช่างเทียน ชุมชนวัดศรีประดู่ นำเสนอความงดงามของประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ผ่านการสาธิตการแกะสลักเทียนอันโดดเด่น ด้วยชุดการเรียนรู้ภูมิปัญญาเทียน (Candle Kit) ที่ร่วมพัฒนาโดยช่างเทียนแห่งศูนย์การเรียนเทียนพรรษาศรีประดู่ และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในโครงการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มแก่ทุนทางวัฒนธรรมด้านภูมิปัญญาการทำเทียนของจังหวัดอุบลราชธานี
นอกจากนี้ช่างศิลป์แห่งเขมราฐ – นาตาล นำเสนอสีสันอีสาน ผ่านเครื่องสักการะและพานบายศรี พร้อมตกแต่งนิทรรศการด้วยภาพวาดพุทธศิลป์พระเจ้าใหญ่องค์ตื๊อ น้อนเหรา ผ้าฝ้ายย้อมคราม และผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายงานวิจัยโครงการการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากและศักยภาพในการแข่งขันสำหรับชุมชนทุนทางวัฒนธรรม อำเภอเขมราฐ และอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี โดยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ด้านคุ้มจันทร์หอม ยังได้นำเสนอผ้าทอเมืองอุบลฯ ในรูปแบบผ้าโบราณ และงานทอออกแบบร่วมสมัย อาทิ งานทอเทคนิคฟั่นไหมจกซ้อนเกสรซ่อนปม ซึ่งคว้ารางวัล World Crafts Council Award of Excellence For Handicrafts Asia Pacific Region งานทอเทคนิคมัดหมี่ และงานทอผ้ากาบบัว เพื่อสะท้อนความงดงามในวัฒนธรรมการทอผ้าเมืองอุบลฯอีกด้วย
การเข้าร่วมเทศกาลหัตถกรรมนานาชาติในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีของจังหวัดอุบลราชธานี ในการนำเสนอความงดงาม มรดกแห่งหัดตศิลป์ และศักยภาพของทุนทางวัฒนธรรม รวมถึงซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของจังหวัดอุบลราชธานี สู่นานาอารยประเทศ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดังความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีในการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่สังคม













