อดีตผู้ประสบภัยไซเบอร์เล่าอุทาหรณ์ 3 รูปแบบถูกหลอกจากเพจเทรดหุ้นปลอมอ้างโลโก้ตลาดหลักทรัพย์ฯจนเงินเก็บเกือบหมดตัวก่อนเจอหลอกกดไลก์-แชร์และเพจขายของปลอมย้ำสติ-การไม่โลภคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ในรายการ “เตือนภัยไซเบอร์” ณัฐชนนพร ถาวรแก้ว หรือ คุณทิ ผู้ประสบภัยไซเบอร์ ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ตรงเพื่อเป็นอุทาหรณ์ หลังจากตนเองตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพไซเบอร์ถึง 3 รูปแบบ โดยเฉพาะการหลอกลวงให้ลงทุนเทรดหุ้น ซึ่งสร้างความเสียหายจนเงินเก็บที่ตุนไว้เกือบหมด
ณัฐชนนพรเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ในช่วงที่ตนเพิ่งผ่านการเจ็บป่วยและไม่ได้ทำงาน ทำให้ต้องการหารายได้ จนไปพบเพจ Facebook หนึ่งที่ใช้โลโก้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้ดูน่าเชื่อถือ และนำไปสู่การหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
1. กลโกง “เทรดหุ้นทิพย์” (ระบบ NAZ)
นี่คือกลโกงที่สร้างความเสียหายให้ณัฐชนนพรมากที่สุด โดยมีขั้นตอนการหลอกลวงอย่างเป็นระบบ
- สร้างความน่าเชื่อถือ: เริ่มจากการให้แอดไลน์ จากนั้นจะมี “เลขา” แนะนำให้รู้จักกับ “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่จะดูแลบัญชีของเราโดยเฉพาะ
- เหยื่อติดกับ: มิจฉาชีพจะส่งแอปพลิเคชันมาให้ติดตั้งและสอนการเทรด โดยในช่วง 5-6 ครั้งแรก สามารถทำกำไรได้จริง (ประมาณ 8-10%) และสามารถถอนเงินออกมาได้จริง ทำให้เหยื่อเริ่ม “วางใจ”
- การลงทุนเพิ่ม (ความโลภ): คนร้ายจะส่งแพ็คเกจการลงทุนที่มียอดสูงขึ้นมาให้เลือกลงทุน โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น คุณณัฐชนนพรยอมรับว่าจุดนี้เกิดจาก “ความโลภ” ของตนเอง
- ติดกับดัก “มิชชั่น“: หลังจากลงเงินก้อนใหญ่ขึ้น (ประมาณ 40,000 บาท) การถอนเงินก็เริ่มมีปัญหา มิจฉาชีพจะอ้างว่าติด “มิชชั่น” หรือเงื่อนไขบางอย่าง และโน้มน้าวให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มเข้าไปอีกเพื่อปลดล็อกเงินก้อนเดิมออกมา
- จุดจบ: คุณณัฐชนนพรระบุว่า ตนตกอยู่ในสภาวะ “กลัวจะไม่ได้เงินคืน” ทำให้ยอมโอนเงินเติมเข้าไปอีก แม้จะเริ่มรู้สึกว่าไม่ปกติ สุดท้ายมิจฉาชีพก็เริ่มไม่ตอบและติดต่อไม่ได้ ทำให้สูญเสียเงินเก็บเกือบทั้งหมดที่สะสมมา
2. กลโกง “กดไลก์กดแชร์” (สูญ 200 บาท)
หลังจากเหตุการณ์แรกผ่านไปประมาณ 2 ปี ณัฐชนนพรเจอกลโกงอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมาในแนว “งานง่ายๆ”
- วิธีหลอก: มิจฉาชีพให้สมัครเข้าไปทำงานกดไลก์-กดแชร์ โดยให้โอนเงินสมัครก่อน 200 บาท
- เหยื่อล่อ: หลังจากทำงานเสร็จ สามารถถอนเงินได้ 280 บาท (ได้กำไร 80 บาท)
- การรู้ทัน: เมื่อคนร้ายบอกให้ไปเข้ากลุ่มไลน์อีกกลุ่มที่มีคนอยู่ 300 กว่าคน (ซึ่งทุกคนเสีย 200 บาทมาเหมือนกัน) คุณณัฐชนนพรก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่คือรูปแบบ “เหมือนเดิมเลย” กับการหลอกเทรดหุ้น จึงตัดสินใจลบกลุ่มทิ้งและไม่ยุ่งเกี่ยวต่อ
3. กลโกง “เพจขายของปลอม” (สูญ 1,000 บาท)
กลโกงล่าสุดเกี่ยวกับการซื้อของออนไลน์ ซึ่งมีความซับซ้อนในการปลอมแปลงเพจ
- วิธีหลอก: ณัฐชนนพรสนใจวัตถุมงคลชิ้นหนึ่งในเพจดังซึ่งมีชิ้นเดียว จากนั้นมีเพจหนึ่งทักไลน์เข้ามาหา
- ความแนบเนียน: เพจปลอมดังกล่าวใช้โลโก้และชื่อเหมือนเพจจริงทุกอย่าง แต่มีตัวอักษร “f” เพิ่มมา 1 ตัว นอกจากนี้ ชื่อบัญชีที่ให้โอนเงินก็ตั้งชื่อให้คล้ายกับเจ้าของเพจจริงมาก
- กลลวงซ้ำซ้อน: หลังจากโอนเงินก้อนแรก (1,000 บาท) ไปแล้ว มิจฉาชีพได้ส่ง QR Code มาให้สแกน อ้างว่าเพื่อ “ยืนยันการส่งของ”
- การไหวตัวทัน: เมื่อสแกน QR Code กลับพบว่าเป็นการโอนเงินยอด 15,000 บาท มิจฉาชีพได้โทรไลน์มาเร่งรัดให้กดยืนยัน คุณณัฐชนนพรจึงรู้ตัวและพิมพ์ถามไปว่า “คุณเป็นมิจฉาชีพใช่ไหม” คนร้ายจึงเงียบไป โดยครั้งนี้เธอได้ไปแจ้งความ
🛡️วิธีป้องกันตัวเองจากโจรไซเบอร์
จากประสบการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ณัฐชนนพร และผู้ดำเนินรายการ ได้ให้ข้อคิดและวิธีป้องกัน ดังนี้:
- หยุดความโลภ: คุณณัฐชนนพรย้ำว่า “ความโลภทำให้คนตาบอด” และเป็นประตูแรกที่เปิดให้โจรเข้ามา ทันทีที่เราโลภ ความโง่จะครอบงำจนขาดสติ
- ไม่มีอะไรง่าย: ต้องตระหนักว่าในยุคนี้ “ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ” การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงและง่ายดายเกินจริง มักเป็นการหลอกลวง
- อย่ามองอดีต: การยึดติดกับอดีตที่เคยมีรายได้ดี อาจสร้างแรงกดดันให้ “อยากได้อยากมี” ในปัจจุบัน จนปิดหูปิดตาและตัดสินใจผิดพลาด
- อย่าตกใจ: มิจฉาชีพมักใช้ความตกใจหรือการเร่งรัดให้เหยื่อรีบตัดสินใจ ต้องตั้งสติและตรวจสอบเสมอ
- ตรวจสอบเพจ (วิธีจากผู้ดำเนินรายการ): สำหรับการซื้อของออนไลน์ ให้กดเข้าไปดูที่หัวข้อ “เกี่ยวกับ” (About) ของเพจ Facebook เพื่อดู “ความโปร่งใสของเพจ” ว่าเพจก่อตั้งเมื่อไหร่ และมีการเปลี่ยนชื่อเพจในอดีตหรือไม่ (เช่น เปลี่ยนจากเพจท่องเที่ยวมาเป็นเพจขายของ)
- กล้าที่จะบอกต่อ: คุณณัฐชนนพรตัดสินใจออกมาเล่าเพื่อ “ให้เพื่อให้สังคมของเราดีขึ้น” โดยไม่รู้สึกอาย เพราะเชื่อว่าการที่คนรู้ทันมากขึ้น จะเป็นการสร้างเกราะคุ้มกันให้สังคม และปิดทางทำมาหากินของมิจฉาชีพ

