อุบลราชธานี – เวทีเสวนา “4 ปีขององค์การบริหารส่วนตำบลกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของการกระจายอำนาจ” จัดโดยคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ร่วมกับมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ เมื่อเช้าวันที่ 14 พ.ย. 2568 กลายเป็นเวทีเดือดตั้งแต่ต้น
ศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง นักวิชาการอิสระ เปิดประเด็นช็อกว่า อบต.ไม่ได้เกิดจากความต้องการของประชาชน แต่เป็น “กลยุทธ์ของกระทรวงมหาดไทย” เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการเรียกร้องเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในปี 2534-2536
“ปี 34 มีคนเรียกร้องให้เลือกตั้งผู้ว่า ปี 36 กระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งผู้ว่าหญิงคนแรก กลุ่มผู้หญิงตื่นเต้นชูป้าย แต่เราไม่ได้เรียกร้องเรื่องเพศ เราเรียกร้องเลือกตั้งผู้ว่า! พอปี 37 อบต.ก็เกิดทันที เพื่อให้คนยุ่งกับองค์กรใกล้บ้าน ไม่สนใจผู้ว่า” ศ.ดร.ธเนศวร์ กล่าว พร้อมยกตัวอย่างว่า อบต.เกิดแบบ Top-Down ไม่เคยถามประชาชน ไม่มีประชามติ ไม่มีแบบสอบถาม “คิดกันเอง ออกแบบเอง อบต.มาเลย!”
อาจารย์ธเนศวร์ยังเปรียบเทียบว่า เยอรมนีพัฒนาการกระจายอำนาจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ไทย “เพิ่งตื่น” เรื่องนี้ในปี 2537 พร้อมวิพากษ์ว่า อบต.ในช่วงแรก “ยิงตายกันบ่อย” เพราะขัดแย้ง แต่ปัจจุบันดีขึ้น มีผลงานสร้างสรรค์มากขึ้น “แต่ทำไมมีถนนอย่างเดียว? ทำไมไม่มีต้นไม้? บ้านผมที่เชียงใหม่ ถนน 16 กม. เคยมีต้นไม้สองข้าง ตอนนี้เหลือหญ้าคา เพราะกรมทางหลวงกับอบต.โยนกันไปมา”
ด้าน นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ส.ส.นครราชสีมา เขต 1 พรรคประชาชน และประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ กล่าวว่า การปกครองไทยแบ่งเป็นส่วนกลาง (นายก-ครม.) ส่วนภูมิภาค (ศาลากลาง-โยธาจังหวัด) และส่วนท้องถิ่น (กทม. พัทยา เทศบาล อบจ. อบต.) แต่ “ประเทศไทยคือชักกะเย่อ” มีแรงดึงไปดึงมา “พอจะกระจายอำนาจ ก็มีแรงดึงกลับ”
“คนไทยใจดี เมตตา อากาศดี ไม่ดิ้นรนเหมือนเมืองหนาว ทำให้ถูกเอาเปรียบง่าย” ส.ส.ฉัตร กล่าว พร้อมยกตัวอย่างว่า เมืองใหญ่ดูดคนเก่ง อบต.เลยเหลือแต่คนแก่
“เลือกตั้งอบต. บางทีเหมือนเลือกความดันหรือเบาหวาน” และเผยว่า “เดินหาเสียง ไหว้ดีๆ อยู่ เขาถาม ‘เท่าไหร่ล่ะ’ ไม่ได้เงินก็ขอให้ก่อนเด้อ”
นายพงศธร กันทวงค์ ตัวแทนกลุ่มเยาวชนอีสานเพื่อการเปลี่ยนแปลง กล่าวว่า “ขออย่าให้มีรัฐประหารอีก เพราะทุกครั้งที่เกิด ส่วนท้องถิ่นถูกดึงอำนาจกลับ” และตั้งคำถามถึงกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ว่า “ควรถูกจัดโครงสร้างใหม่ หรือไม่จำเป็นต้องมี?”
ดร.ศิรินท์ภัทรา สถาพรวงศ์ ผู้ดำเนินรายการ สรุปว่า การกระจายอำนาจตามรัฐธรรมนูญเริ่มปี 2540 แต่ อบต.เกิดก่อนในปี 2537 เพื่อ Bottom-Up แต่ในทางปฏิบัติยัง Top-Down งบประมาณและอำนาจยังอยู่ส่วนภูมิภาค “อบต.มีอะไรให้ทำเหลือ?”
ช่วงตอบคำถาม อาจารย์ธเนศวร์ย้ำว่า ไทย “กระจายอำนาจช้าที่สุดในโลก” เสนอให้มี “วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น” ผลิตบุคลากรเฉพาะทาง และให้ท้องถิ่นมีโรงเรียน กระทรวง หรือสื่อของตัวเอง ขณะที่ ส.ส.ฉัตร เผย พรรคประชาชนจะส่งผู้สมัครอบต. “น้อยมาก” เฉพาะคนที่คลุกคลี อาสาสมัคร และมั่นใจในอุดมการณ์ “ไม่ใช่แค่ให้ใช้ชื่อพรรค แต่ต้องตามไปเทรน ตรวจสอบ ไม่ให้ผิดขั้นตอน”
เวทีปิดท้ายด้วยเสียงปรบมือกึกก้องท่ามกลางความหวังของนักศึกษาว่า “อนาคตท้องถิ่น อยู่ในมือคนรุ่นใหม่”

