พ่อดับเหตุเหยื่อยาฆ่าหญ้าตัดสินใจหันหลังให้สารเคมีหันมามุ่งมั่นทำเกษตรอินทรีย์

นางประจวบ ผลชะอุ่ม เกษตรกร ต.บุเปือย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าของผลิตภัณฑ์กล้วยตากอินทรีย์มีชื่อในจ.อุบลฯ เปิดเผยถึงสาเหตุที่เลิกใช้สารเคมีหันมาทำเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจังเนื่องจากเธอต้องสูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยพิษภัยจากสารเคมีคือยาฆ่าหญ้า 

นางประจวบเล่าว่าปกติพ่อเธอเป็นคนแข็งแรงวันหนึ่งไปคุมคนงานพ่นยาฆ่าหญ้า หลังจากวันนั้นพ่อก็ป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งแต่เธอยังเชื่อและฝังใจว่าพ่อเธอดับเพราะยาฆ่าหญ้า

ตั้งแต่วันนั้นตนจึงตัดสินใจหันหลังให้กับสารเคมีหันมาทำเกษตรอินทรีย์เพื่อเตือนสติตนว่าการทำเกษตรที่พึ่งพาสารเคมี ปุ๋ยเคมีนอกจากจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงแล้วยังเสี่ยงกับสุขภาพอีกด้วย 

การทำเกษตรแบบเดิมๆโดยใช้สารเคมี ใช้ปุ๋ยเคมี เมื่อขายผลผลิตแล้วบางคนอาจมองว่าได้เงินเป็นก้อนแต่พอมาหักลบกลบหนี้ ใช้หนี้ธกส.กลับไม่เหลืออะไรเลย ตนเคยทำบัญชีพบว่าต้นทุนส่วนใหญ่หมดไปกับการซื้อยาปราบศัตรูพืช ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง แต่ละปีต้องซื้อปุ๋ยเคมีสูงถึง 3-5 หมื่นบาท 

นางประจวบ เปิดเผยต่อว่า เดิมครอบครัวจะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด ใช้ปุ๋ยเคมีจนดินป่วย เกิดโรคระบาด ส่วนยางพาราต้องใช้น้ำกรดหยอด เคมีเข้าปอด เมื่อขาดการพักผ่อนก็ส่งผลให้สุขภาพคนในครอบครัวป่วย ตนจึงตัดสินใจมาทำเกษตรอินทรีย์ตั้งแต่ ปี 2558 หลังบิดาเสียชีวิต

นวัตกรรมเริ่มต้นเกษตรอินทรีย์ของนางประจวบ เธอเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เปลี่ยนมาปลูกพืชผสมผสาน เนื้อที่ 12 ไร่จึงหลากหลายชนิดทั้งไม้ยืนต้น เช่น มะขาม เงาะ ขนุน มะไฟ อวาคาโด มะขามป้อม พืชล้มลุก พืชลงหัว หนึ่งในนั้นคือปลูกกล้วยซึ่งปลูกมาก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปี 2553 

สำหรับกล้วยนางประจวบ เล่าว่าระยะเวลาให้ผลผลิต 1 ปี 8 เดือน เมื่อผลผลิตล้นตลาดจึงหันมาแปรรูปกล้วยตากซึ่งสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งเธอเผยเคล็ดลับกระบวนการผลิตว่าต้องเป็นกล้วยที่แก่จัด บ่มสุกด้วยธรรมชาติ ตากในโดมตามกำหนดระยะเวลา เช่น ตากช่วงเช้าก่อนแดดออก 5 วันแล้วเก็บเข้าถุง ตากแดดอีกที 2 วัน เก็บเข้าถุงทุกวันจะทำให้น้ำตาลในตัวออกมาเลี้ยงมีความหวานทั่วและนุ่มไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ ต่างจากกล้วยที่ปลูกจากสารเคมีที่เร่งปลูกเร่งสุกจะแข็งและหวานไม่กลมกล่อม นางประจวบเผย

ผลผลิตที่ได้ก็ แบ่งปันชุมชน เหลือก็ขาย ปัจจุบันยังทำขมิ้นแคปซูล กระชายแคปซูล หญ้าหวาน เพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทั้งผลผลิตการเกษตรและสินค้าแปรรูปมีตลาดสุขภาพดี สื่อสร้างสุขช่วยกระจายสินค้าทุกวันจันทร์ วันพฤหัสบดี อีกทางหนึ่ง

นางประจวบ เล่าต่ออย่างอารมณ์ดีว่าทุกวันนี้ทำงานแบบสบายๆวันละ 3 ชั่วโมง ไม่ต้องจ้างแรงงาน ร่างกายก็แข็งแรง แม้รายได้จะไม่มากแต่ก็เหลือเพราะไม่มีรายจ่าย อย่างมากก็ซื้อปุ๋ยคอก ขี้วัวกระสอบละ 35 บาท

ที่ผ่านมาตนมองไม่เห็นภัยสารเคมีเพราะมีหนี้ธกส.ค้ำคอต้องเร่งหาเงินใช้หนี้ พอมาทำเกษตรอินทรีย์และยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงปรับวิธีคิดใหม่ ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ตอนนี้ตนเลิกกู้ธกส.มา 10 ปีแล้วส่งผลให้สุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี ส่วนผลิตภัณฑ์กล้วยตากเตรียมจะทำโลโก้ภายใต้แบรนด์ “แม่หวี”ซึ่งเป็นชื่อ“ไร่แสนหวี” มรดกของครอบครัว เพื่อจะต่อยอดไปสู่ธุรกิจชุมชนต่อไป นางประจวบ ผลชอุ่ม กล่าวในที่สุด

สนใจกล้วยตากธรรมชาติอินทรีย์ แสงแรกแม่หวี ประจวบ ผลชะอุ่ม ติดต่อได้ที่ LINE OA : @ubonconnect