ซวยซ้ำซ้อน! ดับเบิ้ลหลอก! ผู้ประสบภัยเผยประสบการณ์หลอกกู้เงินและตำรวจไซเบอร์ปลอมลวงซ้ำ

รายการ “เตือนภัยไซเบอร์” ออกอากาศวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เสาวรีย์ เสามั่น ผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางจากอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ได้มาเล่าเหตุการณ์ถูกหลอกลวงออนไลน์แบบ “ดับเบิ้ลหลอก” เมื่อปี 2561 โดยสูญเสียเงิน 400 บาท จากการกู้เงินผ่านแอปปลอมบนเฟซบุ๊ก และเกือบตกเป็นเหยื่อตำรวจไซเบอร์ปลอมที่เรียกเก็บค่าดำเนินการเพิ่ม

เสาวรีย์เล่าว่า เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 เห็นโฆษณาแอปกู้ยืมเงินบนเฟซบุ๊ก ชื่อเพจว่า “app กู้ยืมเงิน” มีปุ่ม “กู้เลย” เธอจึงกดเข้าไปกู้เงิน 1,500 บาท แต่ถูกเรียกให้โอนเงินค่าทำสัญญา 400 บาทล่วงหน้า 

“หนูโอนไปครั้งแรก 200 บาท เพราะมีแค่ในแอปฯ แล้วมีผู้ใหญ่ใจบุญโอนมาให้อีก 200 บาท ครบ 400 บาท แต่หลังโอนเสร็จ เขาเงียบหาย ไม่โอนเงินกู้มาให้เลย” 

เสาวรีย์กล่าว 

พร้อมยืนยันว่าติดต่อผ่าน Messenger บนเฟซบุ๊ก และมิจฉาชีพต้องการเพียงบัตรประชาชนหน้าหลังกับหมายเลขบัญชีธนาคาร เมื่อไม่ได้รับเงิน เธอค้นหาความช่วยเหลือบนเฟซบุ๊ก เจอเพจ “ตำรวจไซเบอร์” ที่โฆษณาว่าช่วยเหยื่อได้เงินคืนจำนวนมาก จึงทัก Messenger และถูกชวนแอดไลน์ผ่าน QR Code ชื่อไลน์ระบุชัดว่า “ตำรวจไซเบอร์” 

“เขาส่งรูปบัตรข้าราชการและภาพแต่งกายชุดสีกากีผู้หญิงมาให้ดู ดูเนียนมาก หนูเลยเชื่อ” เสาวรีย์เล่า มิจฉาชีพถามรายละเอียดคดี แล้วบอกว่า “ก่อนดำเนินการต้องเสียค่าดำเนินการ 500 บาท” แต่เธอเริ่มเอะใจ “เจ้าหน้าที่จริงๆ จะมาขอเงินหรือ?” จึงไม่โอนเงินเพิ่ม บล็อกไลน์ทันที และยังไม่ได้รับเลขบัญชีจากมิจฉาชีพ

หลังจากนั้น เสาวรีย์ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่ว่าการอำเภอโพธิ์ไทร ซึ่งยืนยันว่าที่เธอเจอเป็นตำรวจปลอม เธอจึงแจ้งความที่สถานีตำรวจ  พร้อมแคปหน้าจอเพจกู้เงิน การสนทนา และสลิปโอนเงิน รวมถึงติดต่อธนาคารออมสินเพื่ออายัดบัญชี 

“หนูเคยอบรมศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดอุบลฯ เขาสอนให้เก็บหลักฐาน หนูเลยแคปไว้หมด” เธอกล่าว

เสาวรีย์ยอมรับว่าตอนนั้นต้องการเงินด่วน “เคยกู้แอปจริงสำเร็จ ได้ 1,700 จาก 2,000 หัก 300 บาท ไม่ต้องโอนก่อน เลยคิดว่าอันนี้เหมือนกัน” แต่ย้ำว่า “อะไรได้มาง่ายๆ อย่าเชื่อ ไม่มีอยู่จริง”

นอกจากนี้ เธอยกตัวอย่างคนใกล้ชิด เช่น แฟนสั่งโทรศัพท์ Samsung ผ่านเฟซบุ๊ก ได้ของจริงแต่ใช้ไม่เกินเดือน และกรณีผู้สมัคร อบต. ถูกหลอกทาง SMS ให้กดรับเงินแสน-ล้าน โอนเงินรวม 70,000 บาท แต่ไม่แจ้งความเพราะอาย

สรุปบทเรียน :  

1. อย่าโอนเงินล่วงหน้า ไม่ว่าค่าทำสัญญา ค่าดำเนินการ หรือค่าติดตาม – บริการกู้ยืมจริงหักจากยอดกู้ ไม่เรียกก่อน  
2. ตรวจสอบ แอปกู้เงินต้องเป็นบริษัทจดทะเบียน ตรวจสอบกับธปท. หรือแอปฯ ธนาคาร ไม่ใช่เพจเฟซบุ๊กหรือไลน์ส่วนตัว  
3. เก็บหลักฐานทันที แคปหน้าจอเพจ การสนทนา สลิปโอนเงิน และ QR Code ก่อนบล็อก  
4. แจ้งความและอายัดบัญชี แจ้งความสถานีใกล้บ้านทันที ติดต่อธนาคารอายัดบัญชีปลายทาง  
5. ปรึกษาก่อนเชื่อ เจอ “ตำรวจไซเบอร์” เรียกเงิน ให้โทรสายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441 หรือสถานีจริง ไม่ใช่ไลน์ส่วนตัว

“ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อเหมือนหนู” เสาวรีย์กล่าวทิ้งท้าย